รถบรรทุกไฟฟ้ารักษ์โลก

 
แหล่งที่มา : www.siamrath.co.th วันที่โพสต์ :  17 ก.ย. 2562
       
รถบรรทุกไฟฟ้ารักษ์โลก

CR. https:www.daimler.com/products/trucks/mercedes-benz/eactros.html

“ดิจิตอล” ยุคนี้ ต้องบอกว่า จะทำอะไรก็ดูจะสะดวก สบาย ง่ายไปเสียหมด

กระทั่ง การค้า การขาย ซื้อง่ายขายคล่อง ผ่านระบบออนไลน์ ตามสไตล์ดิจิตอลยุคนี้

ไม่ว่าจะการสั่งซื้อ การจ่ายโอนเงิน ล้วนรวดเร็วสะดวกดายกันไปเสียหมด ชนิดที่ใช้นิ้วกดจิ้มสั่งซื้อของ ปรากฏว่า อีกไม่กี่เพลาต่อมา ก็ได้สิ่งของตามที่สั่งแล้ว แม้สถานที่ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย อยู่ห่างต่างกันคนละฟากเมืองก็ตาม

ทว่า ด้วยความฟูเฟื่องเรื่องของการค้าทางออนไลน์ข้างต้น ก็เป็นเหตุทำให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเหมือนกัน

นั่นคือ มลภาวะทางอากาศ จากการที่รถบรรทุกลำเลียงสิ่งของ ซึ่งพลังงานเชื้อเพลิงแบบดีเซล ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเป็นจำนวนมาก ตามท้องถนนสายต่างๆ ที่รถบรรทุกแล่นผ่าน ซึ่งก๊าซข้างต้น ก็เป็นบ่อเกิดของมลภาวะทางอากาศ และฝุ่นละอองต่างๆ รวมถึงยังเป็นสาเหตุให้เกิดปฏิกิริยาก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อนด้วย

โดยตามกระบวนการโลจิสติกส์ ลำเลียงสินค้า ด้วยขบวนรถบรรทุก ก็เริ่มจากโรงงานแหล่งผลิต ไปสู่คลังสินค้า และจากคลังสินค้า สู่มือของลูกค้า ตามบ้านเรือน

ตามตัวเลขของ “ทบวงพลังงานสากล” หรือ “ไออีเอ” ที่ “อาโกรา” สถาบันคลังสมอง หรือ “ธิงค์ แทงค์ (Think tank)” ในเมืองผู้ดีอังกฤษ ออกมาเปิดเผยระบุว่า ร้อยละ 38 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บนท้องถนนในภูมิภาคยุโรป มาจากรถบรรทุกหนัก เมื่อเปรียบเทียบยานยนต์ชนิดอื่นๆ

พร้อมกันนี้ ตัวเลขจาก “ไออีเอ” ยังระบุอีกว่า การใช้รถบรรทุกเพื่อลำเลียงสินค้าในภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้นคิดเป็นอัตราเฉลี่ยปีละร้อยละ 2.2 นับตั้งแต่ปี 2000 (พ.ศ. 2543) เป็นต้นมา

ทั้งนี้ ตัวเลขที่ออกมา ก็สะท้อนให้เห็นว่า การใช้รถบรรทุกวิ่งตามท้องถนนในภูมิภาคยุโรปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และก็แน่นอนว่า ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์ของปัญหามลภาวะทางอากาศของภูมิภาคดังกล่าว เลวร้ายหนักขึ้นตามไปด้วย

จากสถานการณ์อันเลวร้ายข้างต้น ก็ทำให้หลายเมืองในประเทศของภูมิภาคยุโรป ห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งเข้าไปในย่านใจกลางเมือง อาทิเช่น เมืองฮัมบวร์ก ประเทศเยอรมนี เป็นต้น

ด้วยประการฉะนี้ ก็ทำให้บรรดาค่ายยนตรกรรมต่างๆ เริ่มพัฒนารถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า รวมไปถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ สำหรับการเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้รถในรูปแบบรักษ์โลก ปลอดมลพิษ ชนิดให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็น “ศูนย์ (Zero)” ขึ้นมา

ล่าสุด เป็นทาง “เดมเลอร์ เอจี” หรือ “ดีดีเอไอเอฟ” บริษัทผู้ผลิตยนตรกรรมจากค่ายเยอรมนี ในเมืองสตุทท์การ์ท อันเลื่องชื่อจากแบรนด์ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ก็ได้ผลิต “รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า” เพื่อป้อนสู่ตลาดรถบรรทุกจอมพลังด้านโลจิสติกส์

“อีแอ็กโทรส” หรือ “อีแอ็กทรอส” คือ นามของรถบรรทุกขนาดใหญ่ของค่ายเดมเลอร์ ที่จะนำมาออกโลดแล่นในยุทธจักร “สิงห์รถบรรทุก” ดังกล่าว

สมรรถนะของรถบรรทุกไฟฟ้าคันนี้ ก็สามารถวิ่งบรรทุกสิ่งของได้เป็นระยะทาง 200 กิโลเมตร หรือ 124 ไมล์ สำหรับการชาร์จไฟในแต่ละครั้ง ในการทดสอบสมรรถนะวิ่งบนท้องถนนในประเทศเยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ประจุในแบตเตอรี ซึ่งนอกจากใช้เป็นพลังงานขับเคลื่อนแล้ว ก็ยังใช้ในระบบเบรก และในพวงมาลัยแบบพาวเวอร์ ตลอดจนส่งพลังมายังเครื่องปรับอากาศ แอร์คอนดิชัน เพื่อให้ความเย็นฉ่ำภายในห้องคนขับ หรือห้องโดยสารด้วย

อย่างไรก็ดี “เจซา ไรเมลท์” บิ๊กบอสด้านอี-โมบิลิตี หรือยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของเดมเลอร์ บอกว่า ทางเดมเลอร์จะพัฒนาสมรรถนะรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าให้สามารถวิ่งได้ถึงระยะทาง 500 กิโลเมตร หรือ 311 ไมล์ สำหรับการชาร์จไฟในแต่ละครั้ง ซึ่งทางเดมเลอร์กำลังเร่งพัฒนา โดยมีเป้าหมายว่า จะผลิตป้อนสู่ตลาดให้มาโลดแล่นบนท้องถนน ลำเลียงขนส่งสินค้า โดยที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้โลกต้องวิตกกังวลว่าจะเกิดปัญหามลภาวะทางอากาศ ภายในปี 2021 (พ.ศ. 2564) หรืออีก 2 ปีข้างหน้า

บรรดานักวิเคราะห์แสดงทรรศนะว่า นวัตกรรมรถพลังงานไฟฟ้าที่พัฒนาจากรถยนต์นั่งส่วนบุคคลธรรมดาๆ จนมาสู่รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ถือเป็นย่างก้าวการปฏิวัติด้านโลจิสติกส์ครั้งสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งนอกจากการขยับปรับทัพด้านการขนส่งลำเลียงสินค้า เพื่อให้การค้า การขาย บนโลกออนไลน์เป็นไปอย่างเฟื่องฟูแล้ว ก็ยังเป็นการดำเนินการเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบรักษ์โลก ที่โลกจำต้องตระหนักให้ความใส่ใจ พร้อมเรียกร้องทางการ ให้มีมาตรการสำหรับรองรับการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ดังกล่าว เช่น ติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าไว้รองรับอย่างเพียงพอด้วย

Visitors: 635,042