แผนใหม่จีน ดันฮ่องกง-มาเก๊า-กวางตุ้ง เป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งใหม่ เตรียมโค่นสิงคโปร์
|
|||
แหล่งที่มา : https://brandinside.asia |
วันที่โพสต์ : 4 มี.ค. 2562 | ||
แผนใหม่จีน ดันฮ่องกง-มาเก๊า-กวางตุ้ง เป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งใหม่ เตรียมโค่นสิงคโปร์ | |||
![]() |
|||
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทางการจีนเผยแผนใหม่ที่มีชื่อว่า Greater Bay Area โดยประกอบด้วยฮ่องกง มาเก๊า และ 9 เมืองในมณฑลกวางตุ้ง ได้แก่ กวางโจว, เซินเจิ้น, จูไห่, ฝอซาน, ฮุ่ยโจว, ตงกวน, จงซาน, เจียงเหมิน และเจ้าชิ่ง
หนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์ที่มองไปในทิศทางนี้คือ Lawrence Loh ผู้อำนวยการของ Centre for Governance จาก NUS Business School โดยระบุว่า แผนใหม่ของจีนได้เปรียบอย่างมากในทางภูมิศาสตร์ เชื่อว่าหากเป็นไปตามแผนนี้จะเกิดการผนึกกำลังในหลายอุตสาหกรรมและหลายตลาด ซึ่งอุตสาหกรรมที่จะถูกท้าทายมากที่สุดในสิงคโปร์ คือ “ภาคการเงิน” หากดูจากตัวเลขสถิติ ตามแผนของ Greater Bay Area ถือว่าเหนือว่าสิงคโปร์ในหลายด้าน เช่น มีประชากรสูงถึง 71 ล้านคน มากกว่าสิงคโปร์ถึง 12 เท่า นอกจากนั้นยังมี GDP รวมกันประมาณ 1.64 ล้านล้านดอลลาร์ มากกว่าสิงคโปร์ถึง 5 เท่า ส่วน Tommy Xie หัวหน้าของ Greater China Research จาก OCBC Bank มองว่า แผนใหม่ของจีนจะทำให้ฮ่องกงได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เพราะจะกลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินใหม่ และแน่นอนจะกลายเป็นความท้าทายแห่งใหม่ของสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางทางการเงิน ![]() แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนก็ไม่เห็นด้วยกับมุมมองนี้Duncan Innes-Ker จาก The Economist ให้ความเห็นว่า Greater Bay Area จะไม่เป็นภัยคุกคามสำหรับสิงคโปร์ เนื่องจากฮ่องกงกับสิงคโปร์เป็นเมืองระดับโลก (Global City) ที่ดึงดูดเงินลงทุนและแรงงานทักษะสูงจากทั่วโลกอยู่แล้ว ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลที่สิงคโปร์จะไม่ได้รับผลกระทบ หรือความท้าทายจาก Greater Bay Area มากนัก เป็นเพราะการที่สิงคโปร์ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน อย่างในปี 2018 ที่ผ่านมา เงินลงทุนในส่วน FinTech อย่างเดียวในสิงคโปร์ก็ได้รับเม็ดเงินสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้าถึง 2 เท่า โดยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 365 ล้านดอลลาร์ ที่มา – Nikkei Asian review, Bayarea |