ภายในปี 2025 มีรถ EV ออกขาย350รุ่น โลกเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด
| |
|||
| แหล่งที่มา : www.facebook.com/ธุรกิจ 4.0 |
วันที่โพสต์ : 7 ก.พ. 2562 | ||
| ภายในปี 2025 มีรถ EV ออกขาย 350รุ่น โลกเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด |
|||
 |
|||
|
McKensey ได้ตรวจนับแล้วพบว่า ภายในปี 2025 จะมีรถ EV หรือยานยนต์ไฟฟ้าออกขายมากกว่า 350 รุ่น
นักวิเคราะห์ชื่อดัง Tony Sebu ทำนายว่าภายในปี 2025 รถที่ผลิตออกขายทุกคันในโลกจะเป็นรถอีวี หากการคาดการณ์ถูกต้อง หมายความว่ารถใหม่ที่มีคนซื้อในช่วงนี้ อาจเป็นรถคันสุดท้ายของเขาที่ได้ซื้อ ซึ่งยังเป็นรถแบบเก่าที่ใช้น้ำมัน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกที่ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า กำลังเปลี่ยนผ่านเพื่อผลิตแต่ยานยนต์ไฟฟ้า คือ GM, Volvo, Aston Martin, Jaguar Land Rover Ford ประกาศว่ากำลังเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ โดยรถที่ผลิตออกขายในอนาคตทั้งหมดสำหรับตลาดในยุโรปจะเป็นยานยนต์ไฟฟ้า VW หรือ โฟล์คสวาเกน ต้นตำรับรถเต่าทองกำลังเดิมพันแบบเทหน้าตักให้กับรถอีวี ใช้เงินมากถึง 90,000 ล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนในการเปลี่ยนผ่านสู่รถอีวี ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ฝั่งญี่ปุ่นดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจเปลี่ยนผ่านไปรถอีวีเท่าไร เพราะยังทำเงินได้ดีกับรถที่ใช้น้ำมันแบบเก่าในตลาดเอเชียและอเมริกา แต่สำหรับตลาดยุโรปและจีนซึ่งมีตลาดใหญ่มากๆ ญี่ปุ่นไม่มีทางเลือก เพราะยุโรปและจีนมีเป้าหมายชัดเจนว่าอนาคตจะมีแต่รถอีวีเท่านั้น ญี่ปุ่นมี Nissan Leaf ที่โดดเด่นมากในหมู่รถอีวีที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน ความสำเร็จของ Tesla ซึ่งมีแต่รถอีวีที่ใช้ไฟฟ้า100% มีส่วนผลักดันให้ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ทุกแห่งของโลก เบนเข็มสู่การเปลี่ยนผ่านเป็นผู้ผลิตรถอีวี Tesla ในปัจจุบันมียอดขายรถอีวีอันดับหนึ่งของโลก แม้สัดส่วนรถอีวีเมื่อเทียบกับตลาดรถยนต์ทั้งหมดในอเมริกามีเพียง 1-2% แต่มูลค่าหุ้นในตลาดของ Tesla เหนือกว่าทั้งของ GM และ Ford เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มองเห็นภาพชัดเจนว่า อนาคตตลาดรถยนต์เป็นของรถอีวี ถ้าค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ชื่อดังของโลกไม่ยอมเปลี่ยนผ่านหรือเปลี่ยนช้า ก็จะโดน Tesla และผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายในประเทศจีนแซงหน้าไปได้ สัญญาณที่ชัดเจนอีกอย่างของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า คือ การขยับตัวของเหล่าบริษัทน้ำมัน ยักษ์ใหญ่พลังงานด้านน้ำมันหลายแห่งกำลังหาทางเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจปั๊มน้ำมันไปสู่ธุรกิจบริการสถานีชาร์จไฟสำหรับรถอีวี นอกจากเปลี่ยนปั๊มเดิมที่มีอยู่เป็นสถานีชาร์จไฟแล้ว ก็กำลังไปเร็วแบบทางลัดด้วยการซื้อบริษัทสตาร์ทอัพที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จไฟ บริษัทไหนมีแววอนาคตดี โดนซื้อไปแล้วทั้งหมด ในหลายประเทศ โรงไฟฟ้าหลายแห่งกำลังเตรียมขยายธุรกิจเป็นสถานีบริการชาร์จไฟแบบเดียวกับที่บริษัทน้ำมันกำลังทำ กำลังร่วมวงไล่ซื้อสตาร์ทอัพทางด้านพลังงานสะอาดด้วย ย้อนกลับมาดูประเทศไทยซึ่งวันนี้กำลังมีปัญหาเรื่องมลพิษซึ่งปัญหาใหญ่มาจากจราจรซึ่งมีต้นเหตุมาจากรถใช้น้ำมัน เรายังไม่มีมาตรการณ์อะไรที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า กำลังเปลี่ยนผ่านเหมือนหลายๆประเทศที่เขากำลังทำอยู่ ภาพที่นำประกอบเรื่องคราวนี้เป็นรูปรถยนต์ที่มีสายไฟและปลั๊กไฟล้อมรอบรถ เป็นสัญลักษณ์สากลของรถอีวีปลั๊กอินที่ชาร์จไฟได้ แต่ความหมายของยานยนต์ไฟฟ้าไทยจะแตกต่างจากที่อื่น รถไฮบริดที่ใช้น้ำมันอย่างเดียวชาร์จไฟไม่ได้ ประเทศไทยเราจัดเป็นรถอีวีด้วย และรัฐบาลให้สิทธิพิเศษกับโรงงานผลิตรถไฮบริดเปรียบเสมือนเป็นยานยนต์ไฟฟ้า และคงทำให้ตัวเลขยอดขายรถอีวีไทยดูสับสนมากๆ รถอีวีส่วนใหญ่ของไทยจะเป็นรถที่ชาร์จไฟไม่ได้…ใช้สัญลักษณ์แบบสากลไม่ได้...ไทยแลนด์โอนลี่จริงๆ...... https://www.wired.com/story/general-motors-electric-cars-plan-gm/ https://www.cnbc.com/2019/02/06/gm-doesnt-expect-to-make-money-off-electric-cars-until-next-decade.html https://electrek.co/2019/01/11/ford-electric-versions-all-vehicles-europe/ https://www.autoblog.com/2019/02/06/vw-ev-strategy-inside-story/ https://qz.com/1542499/oil-companies-and-utilities-are-buying-up-all-the-electric-car-charging-startups/ |
|||
