หลีชู้ฝู-เด็กยากจนผู้กลายเป็นเจ้าของ Diamler AG และ Volvo Group

“เมื่อผมยังเด็ก ผมไม่มีของเล่น ผมก่อกองทรายเป็นรูปรถยนต์ นึกฝันเองว่า รถยนต์ของจริงจะเป็นอย่างไร” แต่ใครจะรู้ว่า หลีชู้ฝู เด็กยากจนลูกชาวนาที่เกิดเมื่อ พ.ศ.2506 ในชนบทนอกเมืองไถโจว มณฑลเจ้อเจียง จะกลายเป็นเจ้าของเบนซ์และวอลโว่ในอีกหลายสิบปีต่อมา 

ไม่ใช่เพียงแค่เป็นเจ้าของรถ แต่เขาคือเจ้าของบริษัท Volvo Group แห่งสวีเดน ผู้ผลิตรถยนต์ Volvo และบริษัท Daimler AG แห่งเยอรมนี ผู้ผลิตรถยนต์ Mercedes Benz 

อีกทั้งเขายังเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์สุดหรู Lotus ของอังกฤษ บริษัทรถแท็กซี่ลอนดอน และบริษัทผลิตรถยนต์ Proton อีกด้วย

เมื่อเขาเรียนจบมัธยมในวัย 18 ปี เขาสานฝันโดยการนำเงิน 100 หยวน ที่ได้เป็นของรางวัลไปซื้อจักรยาน และกล้องถ่ายรูปมือสอง รับจ้างถ่ายภาพให้นักท่องเที่ยว เวลาผ่านไปหลังจากนั้นอีกแค่ 6 เดือน เขาก็รวบรวมเงินเปิดร้านถ่ายภาพ

จุดเปลี่ยนสำคัญก็คือ เขาคิดค้นหาวิธีสกัดแร่เงินที่อยู่ในน้ำยาล้างฟิล์มใช้แล้วออกมาได้ เขานำแร่เงินไปขาย รวบรวมเงินเพิ่มเติมจากครอบครัว แล้วตั้งบริษัท Geely ผลิตอะไหล่ตู้เย็น

แต่โชคร้าย ช่วงนั้นเมืองจีนกำลังวุ่นวายเพราะการเมือง ธุรกิจของ Geely ก็เลยไปไม่ไหว เขาจึงหยุดพักแล้วไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยแทน จนกระทั่งเขาจบปริญญาตรีด้าน Management Engineering จาก Harbin University of Science and Technology ปริญญาโทด้าน Mechanical Engineering จาก Yanshan University และปริญญาเอกจาก Harbin Institute of Technology

หลังจากนั้นเขาเปลี่ยนไปทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่พักหนึ่ง จนกระทั่ง พ.ศ. 2536 เขาจึงทำบริษัท Geely อีกครั้ง โดยการผลิตมอเตอร์ไซค์ และต่อมาใน พ.ศ.2540 ก็เริ่มผลิตรถยนต์ยี่ห้อ Geely ของตัวเอง 

เวลาผ่านไปอีก 12 ปี Geely กลายเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ที่สุดของจีน แล้วต่อมาก็เข้าเทกโอเวอร์ Volvo Group ของสวีเดน และ Daimler AG ของเยอรมนี กลายเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ยี่ห้อหรูหราที่คนทั้งโลกรู้จักกันดี

นอกจากนี้ Geely ยังเข้าเทกโอเวอร์บริษัทพัฒนารถยนต์บินได้ของสหรัฐฯ เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอด และ Geely ก็กำลังทำวิจัยเพื่อสร้างรถไฟความเร็วเหนือเสียงให้รัฐบาลจีนอีกด้วย

หลีชู้ฝู ผู้ได้รับสมญาว่า Henry Ford of China และ Elon Musk of Asia ซึ่งปัจจุบันมีทรัพย์สินส่วนตัวมากกว่า 18,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กล่าวว่า

“ทุกชีวิตล้วนมีอุปสรรค แต่ย่อมมีทางออกเสมอ อย่าล้มเลิกความฝัน ขอให้มุ่งมั่น อย่ากลัวความล้มเหลว เพราะเมื่อแรกที่เราเกิดมา เราก็ไม่มีอะไรติดตัว”