นิคมอุตสาหกรรมจีน ใช้หุ่นยนต์ลาดตระเวนแทน รปภ.

นิคมอุตสาหกรรมจีน ใช้หุ่นยนต์ลาดตระเวนแทน รปภ.

นิคมอุตสาหกรรม Shougang Park ในปักกิ่ง เลือกใช้ “ATRIS” หุ่นยนต์ลาดตระเวนทุกสภาพภูมิประเทศในการลาดตระเวน

นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้เป็นที่ตั้งของบริษัท AI กลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก UBTech บริษัท AI และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ชั้นนำของโลก ประกาศลงนามข้อตกลงกับ นิคมอุตสาหกรรม Shougang Park เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการสาธิตไฮเทค โดย ATRIS หุ่นยนต์ลาดตระเวนทุกสภาพภูมิประเทศของ UBTech จะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยแบบอัจฉริยะในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว

หุ่นยนต์ ATRIS จะเพิ่มประสิทธิภาพการลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยใน Shougang Park และช่วยลดต้นทุนในการจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ UBTech จะเดินหน้าร่วมมือกับ Shougang Park เพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนดิจิทัลเทคโนโลยี AI และปรับปรุงระบบนิเวศอุตสาหกรรมด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นแบบอย่างของการพัฒนาเขตเมืองของปักกิ่งที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อทำการสนับสนุนปักกิ่งในการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022

การนำหุ่นยนต์ ATRIS มาใช้งานช่วยให้ Shougang Park สามารถวางระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และยืดหยุ่น เพื่อสนับสนุนการลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยภายในนิคมอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ ATRIS มาพร้อมระบบนำทางอัตโนมัติ U-SLAM ที่ช่วยให้สามารถวางระบบการลาดตระเวนอัจฉริยะด้วยการกำหนดตำแหน่ง เส้นทาง และเวลาในการลาดตระเวน โดยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและลักษณะภูมิประเทศ หุ่นยนต์ ATRIS สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพถนนที่ซับซ้อนได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถนนกรวด ขั้นบันได หรือถนนลาดเอียง ทั้งยังสามารถลาดตระเวนในสภาพอากาศที่ย่ำแย่ได้ด้วย

หุ่นยนต์ ATRIS ช่วยให้สามารถลาดตระเวนและดูแลรักษาความปลอดภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมงในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภายในนิคมอุตสาหกรรม โดยสามารถระบุตัวบุคคลได้อย่างแม่นยำในระยะที่มองเห็น แม้แต่ในสภาพอากาศที่มีหมอกหนาหรือแม้กระทั่งตอนกลางคืน นอกจากนี้ หุ่นยนต์ ATRIS ยังมีปุ่มโทรออกฉุกเฉิน "SOS" ซึ่งจะโทรขอความช่วยเหลืออัตโนมัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้ติดต่อกับศูนย์รักษาความปลอดภัยของนิคมอุตสาหกรรมได้แบบเรียลไทม์

UBTech ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2555 เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรม AI และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ในปี 2561 บริษัทได้รับการประเมินว่ามีมูลค่าสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังเปิดระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัท AI เคยมีมา ซึ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของบริษัท