ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับการใช้พลังงาน

 
แหล่งที่มา : www.naewna.com วันที่โพสต์ :  6 ม.ค. 2562
       
ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับการใช้พลังงาน  

ความเปลี่ยนแปลงใหญ่ของโลกกำลังเกิดขึ้นอย่างขนานใหญ่ และหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงนั้นก็คือความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการใช้พลังงาน  โดยเฉพาะใน เรื่องรถยนต์ทุกชนิด ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนไปสู่การใช้ไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมันและแก๊ส

แนวความคิดและการพัฒนาในการทำให้รถยนต์ใช้น้ำมันและแก๊สเกิดขึ้นมานานแล้ว และขณะนี้เป็นมรรคเป็นผลที่สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างดีแล้ว

ความจริงข่าวคราวเรื่องพัฒนาการด้านนี้ครึกโครมกึกก้องอยู่ในโลก ประชาชาติทั้งหลายในโลกต่างตื่นรู้ในเรื่องนี้กันเป็นอย่างดี แต่ในประเทศไทยของเราซึ่งเป็นกึ่งเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจของต่างชาติกลับเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีเรื่องนี้อยู่ในโลก

เพราะคนที่มีบทบาทในเรื่องสื่อได้ปกป้องปกปิดมิให้ข่าวคราวเรื่องนี้แพร่หลายสู่ประชาชน ทั้งๆ ที่ความจริงยากที่จะหยุดยั้งได้แล้ว การจะเอามือเดียวขึ้นค้ำยันหลังคาที่กำลังจะถล่มลงมานั้นไม่ใช่วิสัยที่จะเป็นไปได้

ประเทศไทยของเราใช้รถยนต์ญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ และถูกกดดันให้สร้างถนนหนทางสารพัดก็เพื่อให้รถยนต์ญี่ปุ่นได้ขยายตัวให้มากที่สุด ส่วนคนไทยจะเป็นหนี้เป็นสินฉิบหายวายวอดเท่าไรไม่ต้องคำนึงถึง ซึ่งรถยนต์ญี่ปุ่นนี้ทั้งหมดใช้น้ำมัน โดยบางส่วนใช้แก๊สได้

ดังนั้นเมื่อการลงทุนในการผลิตและประกอบรถยนต์ทั้งหมดเป็นไปเพื่อใช้น้ำมันและแก๊ส จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้า การถูลู่ถูกังให้มีการใช้น้ำมันและแก๊สต่อไปได้นานเท่าไรก็จะเป็นประโยชน์ของบริษัทรถยนต์สถานเดียวเท่านั้น

แต่นั่นเป็นความประสงค์ของทุนต่างชาติที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์แล้ว และขัดแย้งกับผลประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทยด้วย

ความจริงที่เกิดขึ้นในโลกทุกวันนี้ชัดเจนแล้วว่ารถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้ากำลังจะเข้ามาแทนที่รถยนต์แบบเก่าที่ใช้น้ำมันและแก๊สซึ่งทั้งแพงและอันตรายในประการต่างๆ ดังนี้คือ

ประการแรก รถยนต์ที่ใช้น้ำมันและแก๊สในปัจจุบันนี้ราคาเบาะๆ ที่สุดก็ประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป จนถึงหลายสิบล้านบาท ซึ่งมีอนาคตที่จะต้องดับสูญและมีผู้คนใช้สอยน้อยลงทุกที

ส่วนรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้านั้นราคาต่ำกว่ากันมากเพราะไม่ต้องมีเครื่องยนต์ที่สลับซับซ้อนและแน่นหนาแข็งแรงแบบที่ใช้น้ำมันและแก๊ส ซึ่งต้องอาศัยการระเบิดของเชื้อเพลิงเป็นตัวขับเคลื่อน ดังนั้นราคาจึงต่ำลงมาก โดยทั่วไปราคาประมาณคันละ 500,000 บาทเท่านั้น

ดังนั้นถ้ามีการใช้รถที่ใช้ไฟฟ้าเมื่อใด คนไทยก็จะประหยัดเงินจากการซื้อหาลดลงอีกหลายเท่าตัว

ประการที่สอง ราคาค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้มีเสถียรภาพกว่าราคาน้ำมันและแก๊ส ซึ่งถูกพวกปีศาจครองผลประโยชน์ในเรื่องนี้กำหนดราคากันเองตามใจชอบ และปั่นราคาจนเกิดความปั่นป่วนไม่หยุดหย่อนทั่วทั้งโลก

ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่รถยนต์ใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมันและแก๊ส ความสับสนปั่นป่วนทั้งในทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนและที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของประชาชนก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างถึงราก รายจ่ายในเรื่องค่ากระแสไฟฟ้าสำหรับรถยนต์จะมีเสถียรภาพและทำให้ผู้ประกอบการมีความปลอดภัยในเชิงผลประกอบการมากกว่า

ประการที่สาม ค่ากระแสไฟฟ้าที่ใช้กับรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าถูกมาก การเติมกระแสไฟฟ้าครั้งหนึ่งใช้ระยะเวลาราว 30 นาที และยังมีวิธีในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนปุ๊บก็ใช้ปั๊บได้ทันที โดยค่ากระแสไฟฟ้าแต่ละครั้งต่ำกว่าราคาน้ำมันและแก๊สมาก

การเติมกระแสไฟฟ้าแต่ละครั้งจะทำให้รถวิ่งได้ระยะทาง 250 กิโลเมตร โดยค่ากระแสไฟฟ้าไม่เกิน 50 บาท อย่างมากก็ 80 บาท

ประการที่สี่ การเติมกระแสไฟฟ้าสะดวกมาก เพราะสามารถติดตั้งปั๊มสำหรับเติมกระแสไฟฟ้าได้ในราคาลงทุนต่ำ และสามารถติดตั้งได้จำนวนมาก ติดตั้งได้ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าที่โรงงาน บ้าน อาคารสถานที่ ถนนสาธารณะ ที่จอดรถหรือที่ไหนๆ ก็ตาม ไม่ต้องลงทุนสร้างปั๊มเหมือนสร้างปั๊มน้ำมันแต่ก่อนอีกแล้ว

เมื่อช่วงปีใหม่นี้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางไปที่ประเทศจีน ตามเมืองต่างๆ โดยทั่วไป โดยเฉพาะในมณฑลกวางตุ้งก็จะได้พบเห็นความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้อย่างชัดเจน และล้วนได้รับรู้ว่าในปี 2562 นี้ การขยายตัวของรถที่ใช้กระแสไฟฟ้าจะทะลักเข้ามาในประเทศไทย และย่อมได้รับการต้อนรับจากผู้ที่จำเป็นต้องใช้รถอย่างไม่ต้องสงสัย

ดังนั้นใครที่คิดจะซื้อรถยนต์ในช่วงนี้จึงควรตั้งหลักตั้งสติให้ดีว่าจะซื้อรถยนต์แบบเก่าที่อาจจะตกรุ่นตกราคาในอีกไม่ช้านาน

หรือว่าตั้งหน้าตั้งตารอใช้รถยนต์ที่ใช้กระแสไฟฟ้าซึ่งราคาถูกกว่ากันหลายเท่า ค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่ากันหลายเท่า ทั้งมีความสะดวกสบาย ไม่ต้องเสี่ยงภัยกับแก๊สระเบิดเผาทั้งคันซ้ำแล้วซ้ำเล่าดังที่เห็นตำตากันอยู่ในบ้านเมืองของเราแต่ก่อนมา

Visitors: 635,180