Zipline กองทัพโดรน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
|
|||
แหล่งที่มา : www.prachachat.net/ | วันที่โพสต์ : 23 ธ.ค. 2561 | ||
Zipline กองทัพโดรน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก | |||
คอลัมน์ สตาร์ตอัพ ปัญหา ทำเงิน โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ ปี 2013 ซีอีโอ Amazon ให้สัมภาษณ์รายการ “60 minutes” ว่า จะมีโดรนไว้ส่งของภายในปี 2018 จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ทำให้หลายคนคิดว่า Drone delivery คงเป็นเรื่องอีกยาวไกล เพราะพี่เบิ้มยังทำไม่ได้ แต่สตาร์ตอัพในวันนี้มีกองทัพโดรนเป็นของตัวเอง แถมเป็นเครือข่าย drone delivery ใหญ่สุดในโลก ที่น่าประทับใจคือ ไม่ได้ใช้ส่งของบ้าน ๆ พวกพิซซ่า ไก่ทอด แต่ใช้ส่งเลือดสำรองไปให้ผู้ป่วยฉุกเฉินในพื้นที่ห่างไกล บริษัทนี้คือ “Zipline” ตั้งในปี 2011 ที่ซิลิคอนวัลเลย์ในอเมริกา แต่ไปให้บริการไกลถึงรวันดาในแอฟริกา Zipline เริ่มให้บริการ drone delivery ครั้งแรกในปี 2016 ทำสัญญากับรัฐบาลของรวันดา ส่งเลือดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 21 โรงพยาบาลในชนบท โดยสร้าง distribution center แห่งแรกใน Kigali เมืองหลวงรวันดา มีโดรน 15 ลำ จนถึงวันนี้ บินส่งแล้วกว่า 4,000 ไฟลต์ 3 แสนกม. ส่งเลือด 7,000 ถุง กว่า 20% ใช้รักษาชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน รวันดาเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปกติเจ้าหน้าที่ของคลินิกหรือโรงพยาบาลต้องขับรถกว่า 2 ชม. (หากถนนยังอยู่ในสภาพที่สัญจรได้) เพื่อไปคลังเลือดที่ใกล้ที่สุด บริการขนส่งเลือดของ Zipline จึงช่วยต่อชีวิตให้ผู้ป่วยในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งหลังจากให้บริการพบว่าโรงพยาบาลทั่วประเทศมีการใช้เลือดมากขึ้นถึง 175% |
|||
วิธีการใช้บริการก็ง่ายดาย เพียงเจ้าหน้าที่สถานพยาบาลส่ง SMS ระบุประเภทเลือดที่ต้องการไปยังศูนย์ของ Zipline จากนั้นไม่กี่นาทีก็จะได้รับ SMS จากบริษัทว่าสินค้าพร้อมนำส่งแล้ว โดยพร้อมบริการ 24 ชม. ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. บรรทุกของน้ำหนักไม่เกิน 1.8 กก. และไปถึงจุดหมายภายใน 30 นาที (รัศมีไม่เกิน 80 กม.) โดยเจ้าหน้าที่คุมการบินผ่านแท็บเลต เมื่อถึงจุดรับสินค้าเครื่องจะปล่อยร่มชูชีพ (แบบใช้ซ้ำได้) ที่มีสินค้าที่แพ็กมาอย่างดี ให้ลอยมายังจุดนัดหมาย ปัจจุบันกองทัพโดรน Zipline ส่งได้ 500 เที่ยว/วัน ส่งเลือดสำรองกว่า 20% ของประเทศ โดยจะเปิด distribution center แห่งที่ 2 ในปีหน้า ทั้งกำลังเจรจากับรัฐบาลแทนซาเนียเพื่อให้บริการ drone delivery ขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ฉุกเฉินแบบ on demand ที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก ซึ่งจะทำให้บริษัทส่งเลือดสำรอง วัคซีนฉุกเฉิน ยารักษาโรค HIVs ยาต้านมาลาเรีย ยาปฏิชีวนะ และอุปกรณ์ทางการแพทย์บางชนิด ได้ถึงวันละ 2,000 รอบ ครอบคลุมสถานพยาบาลกว่า 1,000 แห่ง และประชากรกว่า 10 ล้านคนทั่วประเทศ บริษัทตั้งเป้าหมายระยะยาวที่จะเป็นผู้ประกอบการที่ให้บริการขนส่งทรัพยากรทางการแพทย์แบบด่วนจี๋เพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้คนในนาทีวิกฤตทั่วโลกโดยไม่ใช้น้ำมันสักหยดเดียว ซึ่งก็ดูจะใช่เรื่องเพ้อฝันเมื่อพิจารณาจากทีมงานที่ประกอบไปด้วยมือเก๋าด้าน aerospace จากบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง SpaceX, Google, Boeing หรือแม้กระทั่ง NASA ด้านเงินลงทุนก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะมีนักลงทุนเอาเงินมาให้ใช้เกือบ 50 ล้านเหรียญ ทำให้ Zipline เป็นสตาร์ตอัพแห่งอุตสาหกรรม automated logistics ที่มีอนาคตค่อนข้างสดใสทีเดียว |