“ล้มคนเดียว เจ็บทั้งบ้าน” ยากันล้ม: คู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ
|
|||
แหล่งที่มา : www.the101.world/ | วันที่โพสต์ : 11 ม.ค 2561 | ||
“ล้มคนเดียว เจ็บทั้งบ้าน” ยากันล้ม: คู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ | |||
รู้หรือไม่ว่า ในปีหนึ่งมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการหกล้มไม่ต่ำกว่า 1,000 คน!! การหกล้มหนึ่งครั้ง คุณอาจไม่ได้แค่เจ็บตัว แต่อาจเจ็บใจ (ที่น่าจะรู้วิธีป้องกันก่อน) และอาจเจ็บลามไปถึงคนใกล้ตัว ที่ต้องเข้ามาช่วยดูแล จะดีแค่ไหน ถ้าเรามี “ยากันล้ม” ที่มีสรรพคุณเป็นคู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ ———————————————————————————————————————————————————————— :: ล้มคนเดียว เจ็บทั้งบ้าน :: ยากันล้ม : คู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ เมื่อป่วยหรือล้มเจ็บ เรามักคาดหวังว่าจะได้รับยาจากหมอ ที่ช่วยรักษาให้หายจากโรคแบบทันทีทันใด แต่จริงๆ แล้ว ‘ยา’ ที่สำคัญกว่าคือการดูแลป้องกันตนเองไม่ให้เกิดโรคเหล่านั้นและไม่ให้โรคพัฒนาจนถึงขั้นรักษาไม่หาย หลายโรคในผู้สูงอายุสามารถป้องกันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนเกิดโรค รวมถึง ‘การหกล้ม’ ซึ่งหากเกิดขึ้นแล้วมีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการหกล้ม เช่น การปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน และสภาพร่างกายของผู้สูงอายุเอง ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ยาขนานนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุหกล้ม และช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข และมีอายุยืนยาว
สะดุดนิด…ชีวิตเปลี่ยน - รู้หรือไม่? แต่ละปีมีผู้สูงอายุหกล้มเสียชีวิตเป็นครึ่งหนึ่งของทุกกลุ่มอายุ! หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 1,000 คนเลยทีเดียว ที่มาข้อมูล : “สถานการณ์การพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุ” จากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรบควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ทำไมผู้สูงอายุถึงหกล้ม?
เช่น การมองเห็น การเดิน การทรงตัว การรับรู้ และการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น กระดูกพรุน สมองเสื่อม เบาหวาน หลอดเลือดสมอง เป็นต้น
เช่น ขาดการออกกำลังกาย สวมใส่รองเท้าและเสื้อผ้าที่ไม่พอดี ดื่มแอลกอฮอล์ที่เกินพอดี และใช้ยาที่เสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้ม (ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาลดความดันโลหิต และยาขับปัสสาวะ)
เช่น พื้นและบันไดลื่น พื้นต่างระดับ ไม่เรียบ แสงสว่างไม่เพียงพอ มีสิ่งขีดขวาง ไม่มีราวจับบริเวณบ้าน บันได และห้องน้ำ
เช่น รายได้ ระดับการศึกษา สัมพันธภาพในสังคม และการเข้าถึงการบริการสุขภาพน้อย
ล้มคนเดียว เจ็บจี๊ดทั้งบ้าน!!
1. นายเจ็บ ฉันเจ็บ ล้มครั้งเดียวอาจส่งผลต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของคนรอบข้างเจ็บต่อไปตามๆ กัน ถ้าผู้สูงอายุไม่สามารถดูแลตัวเองได้เองอีก อาจส่งผลให้ลูกหลานหรือญาติพี่น้องต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลหรือจ้างผู้ดูแลพิเศษให้ การบาดเจ็บจากการหกล้มทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลนานกว่าการบาดเจ็บจากสาเหตุอื่น ยกตัวอย่างเช่น การบาดเจ็บจากกระดูกสะโพกหัก ผู้ป่วยอาจต้องนอนโรงพยาบาลนานถึง 20 วัน ถ้าผู้ป่วยยิ่งมีอายุมากและมีโรคประจำตัวมีความเป็นไปได้ที่ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเวลานานหรือนอนติดเตียง และต้องมีผู้ดูแลไปตลอดทั้งชีวิต
2. เจ็บ(กระดอง)ใจ เมื่อผู้สูงอายุหกล้มและกระดูกหัก พบว่า 1 ใน 5 ไม่สามารถกลับมาเดินได้อีก บางส่วนต้องใช้รถเข็นไปตลอด ส่งผลให้ผู้สูงอายุสูญเสียความสามารถในการดูแลตนเอง และต้องมีคนดูแลตลอดเวลา มีภาวะสับสน มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวทำให้เกิดอาการซึมเศร้าตามมา สำหรับคนที่เคยหกล้มแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง อาจเกิดอาการวิตก หวาดกลัวการหกล้มซ้ำ ทำให้ไม่กล้าใช้ชีวิตตามปกติ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตด้านอื่นๆ ลดลงไปด้วย
3. เจ็บกระเป๋า ผู้สูงอายุหกล้มครั้งนึงอาจต้องจ่ายค่ารักษาสูงถึงแสนกว่าบาทต่อคนต่อครั้ง หากรวมค่าใช้จ่ายทางอ้อมที่เกิดขึ้น เช่น รายได้ที่ครอบครัวต้องเสียไป เมื่อต้องหยุดงานมาดูแล หรือรายจ่ายที่เพิ่มหากต้องจ้างคนดูแล ประมาณการว่าอาจสูงถึง 1,200,000 บาท ต่อคนต่อปี!! …รู้สึกกระเป๋าเบาไปในพริบตา
แล้วอะไรคือยาที่จะป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ?1. กันล้มด้วยการออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพิ่มความสามารถในการทรงตัวและการเดิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการหกล้มในผู้สูงอายุ 2. กันล้มด้วยการปรับบ้าน ช่วยลดสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย มาปรับพื้นที่ให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ เพื่อดูแลและมอบ ‘ยากันล้ม’ ในการป้องกันร่างกายให้ห่างไกลการหกล้ม
ยากันล้มตัวที่หนึ่งวิธีใช้ : ออกกำลังกันล้ม (ข้อควรระวัง : ท่าที่ไม่สามารถทำได้ สามารถข้าม หรือลดจำนวนตามความเหมาะสม)
-ท่าฝึกการเดินและการทรงตัวระดับง่าย
- ท่าฝึกการเดินและการทรงตัวระดับยาก
ยากันล้มตัวที่สองวิธีใช้ : ปรับบ้านช่วยดูแลผู้สูงอายุ
1. เตียงนอนควรนั่งแล้วเท้าเหยียบพื้นได้ แต่ความสูงของเตียงก็ไม่ควรต่ำเกินไป 2. ฟูกไม่นิ่มหรือแข็งเกินไป ฟูกชนิดที่วัสดุเป็นส่วนผสมระหว่างยางพาราและสปริงจะมีความนิ่มและแข็งที่ไม่มากเกินไป ฟูกที่เป็นฟองน้ำหรือฟองอากาศ จะเหมาะกับผู้สูงอายุที่เป็นแผลกดทับ ฟูกแบบลอน จะเหมาะกับผู้สูงอายุที่เป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ 3. เก้าอี้มีพนักพิงและที่วางแขน ขาเก้าอี้ไม่ควรเป็นแบบล้อเลื่อน และความสูงของเก้าอี้ควรอยู่ในระดับที่เข่าวางตั้งฉากกับพื้นได้ 4. เฟอร์นิเจอร์ไม่มีเหลี่ยมมุม หากมีควรหาเทปแปะขอบมุมไว้
5. มีแสงสว่างเพียงพอ สามารถนำทางได้ในที่มืด 6. สวิตช์เปิดปิดไฟ ควรอยู่ใกล้หัวเตียงที่มือสามารถเอื้อมถึง
1. ระยะทางระหว่างห้องน้ำและห้องนอนไม่ควรไกลกันเกิน 3 เมตร ภายในควรแยกพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้ง หากไม่สามารถแยกพื้นที่ได้ ควรมีม่านกั้นห้องน้ำระหว่างส่วนเปียกและแห้ง 2. พื้นห้องน้ำไม่ลื่น ควรมีลวดลายบนกระเบื้อง ใช้วัสดุเนื้อหยาบ หรือเป็นกระเบื้องแผ่นเล็กจะช่วยเพิ่มแรงเสียดทานในการเดิน
3. โถส้วมเป็นแบบนั่งห้อยเท้า ลักษณะการกดน้ำให้เป็นคันโยกดีกว่าการเป็นปุ่มกดน้ำ 4. ก๊อกน้ำเป็นแบบก้านโยก ก้านกด หรือก้านหมุน 5. ราวจับควรมีจับตลอดทางเดินไปห้องน้ำ และติดตั้งใกล้โถส้วม ความสูงระดับที่พอเหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุ
1. ไม่วางของเกะกะบนพื้น เช่น สิ่งของ สายไฟ เพราะจะทำให้สะดุดหกล้มได้ 2. พื้นไม่ลื่น เรียบ เสมอ ไม่ต่างระดับ
3. เสื่อ พรม ผ้ายางควรใช้แบบกันลื่น 4. ลูกบิดประตูเป็นแบบก้านโยก 5. บานประตูเป็นแบบเลื่อนที่มีราวจับบานประตู 6. สวิตช์และปลั๊กไฟควรติดตั้งจากพื้นอย่างน้อย 45 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 90 เซนติเมตร และสวิตช์มีขนาดใหญ่ 5-7.5 เซนติเมตร
1. ไม่วางของเกะกะบนขั้นบันได 2. มีแสงสว่างเพียงพอ สามารถนำทางได้ในที่มืด
3. มีราวจับ ยืดเกาะ 4. สวิตช์เปิดปิดไฟทั้งชั้นบนและล่าง
1. ของใช้ที่ใช้บ่อยไม่วางบนชั้นเหนือศีรษะ ควรวางให้หยิบง่าย วางในระดับเอว 2. ตู้เก็บภาชนะหรือเครื่องปรุง ควรใช้ตู้แบบบานเลื่อน
กันล้มแบบมีสไตล์นอกจากการออกกำลังกาย และปรับสภาพแวดล้อมในบ้าน
ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยป้องกันการหกล้ม แบบชิคๆ คูลๆ
ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรองเท้าที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ชวนสะดุดพาเราหกล้ม หรือจะเป็นอุปกรณ์ช่วยเดิน ที่จะช่วยพยุงร่างกายเพื่อให้เดินได้ดีขึ้น มั่นคงขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการทรงตัว และมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขน
แต่ถ้าเกิดพลาดหกล้มขึ้นมาล่ะ! จะลุกอย่างไรให้ปลอดภัย? อันดับแรกไม่ควรตื่นตระหนก ทั้งคนล้มและญาติ ควร ‘ตั้งสติ’ ให้ดี ประเมินอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นว่ารุนแรงมากน้อยแค่ไหน หากบาดเจ็บมาก อย่าพยายามลุกเอง ให้ขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด หากรู้สึกว่าบาดเจ็บไม่มากและคิดว่าลุกขึ้นเองได้ให้หาที่ยึดเหนี่ยวที่แข็งแรงเป็นตัวช่วยพยุงให้ลุกขึ้น ————————–—- รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมแชร์ “ยากันล้ม” ให้กับพ่อแม่ปู่ย่าตายาย หรือคนรู้จักที่เรารักกันนะ
ที่มาข้อมูล : ยากันล้ม คู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มสผส.) สถานการณ์ ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มสผส.) |