BLOCKCHAIN, VR, AI คืออนาคตของโลกเงินนักลงทุนกองอยู่ไหน อนาคตอยู่ที่นั้น

 
แหล่งที่มา : www.facebook.com/Suttichai Taksanun วันที่โพสต์ :  5 ต.ค. 2561
       
BLOCKCHAIN, VR, AI คืออนาคตของโลกเงินนักลงทุนกองอยู่ไหน อนาคตอยู่ที่นั้น 

Fidelity ยักษ์ใหญ่ด้านการเงินอายุ 72 ปี วันนี้กำลังแข่งขันกับบริษัทเทคฯยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Facebook และ Microsoft 

ฟิเดลิตี้มีเงินบริหารอยู่ในมือ 7 ล้านล้านดอลลาร์ ในแต่ละปีใช้เงินมากถึง 2,500 ล้านดอลลาร์เพื่อการวิจัยและพัฒนาในห้องแล็บของบริษัท กำลังวิจัยเพื่อหาทางนำเทคโนโลยีมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

แขนงสาขาที่มีการทุ่มเทมากที่สุดในปัจจุบัน คือ Blockchain, Artificial Intelligence และ Virtual Reality ซึ่งนักวิเคราะห์ทั่วโลกเห็นตรงกันว่า เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ที่ผ่านมาในอดีต คนส่วนใหญ่รู้จักชื่อของ Fidelity ในฐานะสถาบันการเงินเก่าแก่ของอเมริกาที่ทำงานด้านบริหารกองทุนรวม ช่วยวางแผนการเกษียณอายุ แต่ที่จริงแล้ว ฟิเดลิตี้เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี และเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในบริษัทใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี

ช่วงทศวรรษ 1960s ฟิเดลิตี้ได้ซื้อเมนเฟรมคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ที่ใช้พื้นที่สำนักงานทั้งชั้น เป็นยุคแรกๆที่บริษัทเอกชนเริ่มมีคอมพิวเตอร์ใช้ 

ช่วงทศวรรษ 1970s ฟีเดลิตี้เป็นบริษัทแรกที่เปิดขายกองทุนรวมรายย่อยผ่านทางโทรศัพท์แบบสายเรียกเข้าฟรี และเป็นเจ้าแรกที่ใช้ระบบการตอบรับโทรศัพท์ด้วยเสียงผ่านทางคอมพิวเตอร์ คอยแจ้งราคาหุ้นและผลตอบแทนจากการลงทุน

ช่วงทศวรรษ 1980s มี Fidelity Money Line ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่ใช้ระบบอีเล็กโทนิกส์ในการโอนเงินในตลาดทุนทั่วประเทศ และมีระบบตอบรับอัตโนมัติด้วยเสียงที่ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1990s ฟิเดลิตี้ได้ตัดสินใจว่าควรมีกลุ่มคนที่มีหน้าที่ค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในแล็บของตัวเอง

ในปัจจุบัน ฟิเดลิตี้มีนักเทคโนโลยีร่วมทำงานด้วยมากกว่า 12,000 คน หรือคิดเป็นจำนวนเกือบหนึ่งในสามของพนักงานบริษัท 

เคยเห็นบริษัทเทคโนโลยีหรือสตาร์ทอัพไปดีสรัปบริษัททางด้านการเงินอยู่บ่อยครั้ง แต่ในกรณีของ Fidelity จะไม่เป็นอย่างนั้น นอกจากไม่โดนป่วนแล้วยังกลับไปป่วนบริษัทอื่นด้วย ถือว่าเป็นคู่แข่งขันสำคัญของบริษัทเทคฯ 

ฟิเดลิตี้มีความพร้อมทั้งด้านความรู้และประสบการณ์ทางเทคโนโลยี แล้วยังมีความพร้อมในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ที่มีเงินพร้อมลงทุนมากกว่าใครๆ

Fidelity เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับ Startup และ Fintech เป็นผู้ลงทุนที่สร้างบริษัทยูนิคอนได้มากที่สุดในอเมริกา ช่วยทำให้บริษัทเกิดใหม่จำนวนมากกลายเป็นธุรกิจพันล้านดอลลาร์ 

บริษัทดังที่ได้เงินลงทุนจาก Fidelity เช่น SpaceX, Uber, Snapchat, Pinterest 

ใครที่ติดตามข่าวเทคโนโลยีจะได้ยินชื่อของ Fidelity ในฐานะผู้ลงทุนให้กับสตาร์ทอัพดังๆอยู่อย่างต่อเนื่อง

Fidelity ไม่ใช่นักลงทุนเพียงรายเดียวที่กำลังให้ความสำคัญเป็นพิเศษอยู่กับ Blockchain, AI และ VR แต่นายทุนทั่วโลกอื่นๆ กำลังเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน

ถ้าเงินของนักลงทุนไปกองอยู่ที่ไหนมากเป็นพิเศษ อนาคตก็อยู่ที่นั่นด้วย!
Visitors: 620,562