8 ทักษะจำเป็นนอกตำราของสตาร์ทอัพยูนิคอร์น

 
แหล่งที่มา : www.thansettakij.com วันที่โพสต์ :  16 ก.ย. 2561
       
 8 ทักษะจำเป็นนอกตำราของสตาร์ทอัพยูนิคอร์น

นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า เยาวชนที่ต้องการก้าวขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ ควรเตรียมความพร้อมด้านการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creative) และด้านความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) เป็นพิเศษ โดยความพร้อมทั้ง 3 ด้านนี้ เยาวชนจะต้องมี 8 ทักษะ คือ
การใช้ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

ความคิดสร้างสรรค์นั้นไม่ได้ หมายถึงการริเริ่มไอเดียใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเลือกใช้ความรู้ และประสบการณ์ที่แตกต่าง ในการค้นหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งความคิดสร้างสรรค์นี้ มีความจำเป็นอย่างมากในการต่อสู้ และสร้างความโดดเด่นในสนามธุรกิ จอันดุเดือด

การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Co-Creation)

แน่นอนว่าการประกอบธุรกิจย่อมไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว โดยการทำงานเป็นทีมนี้หากสมาชิ กเกื้อหนุนกัน ย่อมเป็นผลดีต่อธุรกิจ ดังนั้นการรับฟังและยอมรับความเห็นที่แตกต่างของผู้อื่น เพื่อนำมาประยุกต์และต่อยอดในการพัฒนาชิ้นงานและแก้ไขปัญหาของทีม จึงเป็นสิ่งสำคัญในการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจ

การลงมือทำและความเป็นผู้ ประกอบการ (Entrepreneurship)

การมีไอเดียที่สดใหม่และแตกต่างนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ของการทำธุรกิจ แต่การนำไอเดียดังกล่าวไปสร้างเป็นธุรกิจจริง จำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจกลไกของธุรกิจ รวมทั้งสามารถวางแผนกลยุทธ์เพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเองได้อย่างถูกต้อง เพราะหากไอเดียดีเพียงไร แต่ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ ธุรกิจดังกล่าวย่อมไม่ สามารถดำเนินไปได้อย่างมั่นคง

การสื่อสาร (Communication)

การทำธุรกิจย่อมหนีไม่พ้นการนำเสนองาน ทั้งกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ (Partner) ตลอดจนเพื่อนร่วมงานและลูกน้อง ความสามารถในการถ่ายทอดความคิดและทัศนคติ ได้อย่างถูกต้องและชัดเจน รวมทั้งมีทักษะการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจและสามารถโน้มน้าวใจผู้ฟังได้ จึงเป็นทักษะที่สำคัญ นอกจากสร้างความเข้าใจแล้ว การสื่อสารที่ดียังคงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถืออีกด้วย


การคิดและมองแบบองค์รวม (Holistic)


หากการเรียนรู้ภูมิศาสตร์ ประเทศไทย ไม่สามารถทำความเข้าใจได้แค่ลั กษณะพื้นที่ของกรุงเทพฯ การทำธุรกิจก็เช่นกัน การเป็นผู้ประกอบการที่ดีจึงไม่ ควรโฟกัสเพียงแต่ธุรกิจของตนเอง โดยไม่สนใจสภาะแวดล้อมรอบข้าง อาทิ รูปแบบการตลาดของคู่แข่ง ฯลฯ และการมีความเข้าใจในมิติความรู้ ที่หลากหลายและรอบด้าน รวมทั้งเข้าใจความแตกต่างของมนุษย์ สังคมและสภาพแวดล้อม ย่อมเป็นหนทางสู่การสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ

การเข้าใจปัญหา (Understanding)

ทุกปัญหามีทางออกและทุกอุปสรรคมีโอกาสเสมอ หากสามารถค้นหาสาเหตุ ข้อจำกัดและเงื่อนไขของปัญหานั้นได้ และนำมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งนำมาเป็นบทเรียนในการแก้ไขปัญหาในครั้งต่อไป ตลอดจนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ปัญหาเดิมเกิดขึ้นอีก

การรู้เท่าทันเทคโนโลยีและวัสดุ (Material and Technology Literacy)

การนำเทคโนโลยีมาใช้ทุ่ นแรงในการทำธุรกิจ มิใช่เพียงหนทางของการลดเวลา ลดต้นทุนและเพิ่มผลเท่านั้น แต่ยังเป็นหนทางแห่งการสร้างโอกาสและความแตกต่าง หากมีความเข้าใจในระบบสั่งการและสามารถใช้งานเครื่องจักรและเทคโนโลยีในการพัฒนาธุรกิจได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งมีความรู้ในวิทยาการด้านวัสดุ

การจัดการความเปลี่ยนแปลงและความล้มเหลว (Change and Failure Management)



ทุกธุรกิจย่อมมีความล้มเหลว แม้ในเริ่มต้นอาจสวยหรูแต่ย่อมมีจุดตกต่ำในวันหนึ่ง ความเข้าใจถึงความไม่แน่

นอนของการดำเนินธุรกิจนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับตัวอย่างเหมาะสม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ รวมทั้งยินดีหากต้องเริ่มต้นใหม่ เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด

ทั้งนี้ 8 ทักษะที่มีความจำเป็นต่อการเติบโตเพื่อเป็นผู้ประกอบการที่ ประสบความสำเร็จที่กล่าวมาข้างต้นนั้น สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ ผ่านชาเล้นจ์ในโครงการ "ชมรมนักออกแบบรุ่นเยาว์" หรือ “YOUNG DESIGNER CLUB” (YDC) อาทิ การออกแบบโลโก้ THE STORY TELLER การออกแบบแนวทางการกำจัดขยะให้ เป็นศูนย์ การสร้างสรรค์เครื่องแบบนักเรียนแนวใหม่และการค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาดราม่าในงานกีฬาสี ซึ่งชาเล้นจ์ต่าง ๆ ล้วนส่งเสริมทักษะที่แตกต่างกันออกไป
Visitors: 620,632