เศรษฐกิจไทยพึ่งพาหุ่นยนต์มากขึ้น

 
แหล่งที่มา : www.voicetv.co.th วันที่โพสต์ :  7 ส.ค. 2561
       
 เศรษฐกิจไทยพึ่งพาหุ่นยนต์มากขึ้น

เศรษฐกิจไทยหันมาพึ่งพาหุ่นยนต์มากขึ้นถึง 133 เปอร์เซ็นต์ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน รองรับการเป็นศูนย์กลางการแพทย์ของเอเชีย และพฤติกรรมการช็อปปิงออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

สำนักข่าว Tech Wire Asia รายงานว่า ไทยมีความต้องการในการใช้หุ่นยนต์มากขึ้น เนื่องจากธุรกิจต่างๆ หันมาใช้หุ่นยนต์และเครื่องจักรในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงปัญหาขาดแคลนแรงงานด้วย

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI เปิดเผยว่า ในปี 2018 นี้ ไทยจะนำเข้าหุ่นยนต์อุตสาหกรรมประมาณ 7,500 ชิ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วถึง 133 เปอร์เซ็นต์ โดยอุตสาหกรรมที่ซื้อหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานมากขึ้นเป็นพิเศษได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารสำเร็จรูป

นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรมการผลิต ไทยก็ยังต้องการหุ่นยนต์ด้านบริการมากขึ้นด้วย เพราะในขณะที่หุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมจะมีหน้าที่ทำงานเพียงไม่กี่อย่าง หุ่นยนต์บริการสามารถปรับการทำงานของตัวเองไปตามสิ่งแวดล้อมหรือสถานการณ์ต่างๆ ได้

หนึ่งในโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้ใช้หุ่นยนต์บริการก็คือ การใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการแพทย์ เนื่องจากไทยวางเป้าหมายไว้ว่าจะขึ้นมาเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ของเอเชีย ทำให้ไทยลงทุนมูลค่ามหาศาลไปกับอุตสาหกรรมการแพทย์ ในการพัฒนาเทคโนโลยี และเปิดรับผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติ

อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยจำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ ก็เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมสูงวัย โดยข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่า ในปี 2040 ประชากรมากกว่า 1 ใน 4 ของไทยจะมีอายุมากกว่า 65 ปีขณะที่ประชากรในวัยทำงานจะลดลงจาก 49 ล้านคนเหลือประมาณ 40.5 ล้านคน และเมื่อประชากรวัยทำงานที่ลดลง จะทำให้อีกหลายอุตสาหกรรมไทยขาดแคลนแรงงานด้วย ดังนั้น สังคมสูงวัยจึงกลายเป็นความท้าทายใหญ่ของระบบสาธารณสุขไทย

ที่ผ่านมา ไทยได้พัฒนาหุ่นยนต์ด้านสาธารณสุขขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของประชาชน เช่น 'ฟ้าใส' การนำหุ่นยนต์มาช่วยรักษาเด็กที่มีอาการออทิสซึม 'ดินสอ' หุ่นยนต์ช่วยดูแลผู้สูงอายุ 'เซนซิเบิล แท็บ' หุ่นยนต์ช่วยฟื้นฟูสภาพแขน และ 'บีไฮฟ์' ระบบจ่ายยาอัตโนมัติ

ตลาดอีคอมเมิร์ซที่ขยายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ใช้หันมาช็อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้มีการนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้มากขึ้น ทั้งการใช้หุ่นยนต์จัดการคำสั่งซื้อขาย จัดการคลังสินค้า และระบบขนส่งที่ตรวจสอบ อีกทั้งยังมีการสร้างโกดังอัจฉริยะมากขึ้น ชมรมเทคโนโลยีคลังสินค้าและระบบจัดการระบุว่า โกดังอัจฉริยะในมีมีจำนวนมากขึ้นประมาณร้อยละ 3-5 ต่อปี โดยโกดังอัจฉริยะเหล่านี้สามารถตรวจสอบสินค้าเข้าออกได้ผ่านระบบออนไลน์

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ได้ประโยชน์จากการใช้หุ่นยนต์ด้วย เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีรายได้มหาสาลจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไทยต้องรับนักท่องเที่ยวมากขึ้นทุกปี โดยปี 2017 ที่ผ่านมา ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 35.38 ล้านคน หากไทยนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ก็น่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งด้านการให้บริการลูกค้าไปจนถึงการลดอุปสรรคด้านภาษา

Visitors: 636,250