ซาอุดิอาระเบียและซอฟ์ทแบ๊งค์ ลงนามร่วมมือกันสร้างโซลาร์ฟาร์ม 200GW

 
แหล่งที่มา : www.forbes.com  , ww.mashable.com
               
Facebook/Suttichai Taksanun

วันที่โพสต์ :  29 มี.ค. 2561
       
 ซาอุดิอาระเบียและซอฟ์ทแบ๊งค์ ลงนามร่วมมือกัน
สร้างโซลาร์ฟาร์ม 200GW 
  
เมื่อวันที่ 28-03-2018 เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบียประกาศความร่วมมือกับซอฟ์ทแบ๊งค์ ลงนามร่วมมือกันสร้างโซลาร์ฟาร์มในซาอุฯรวม 200GW และมีระบบกักเก็บพลังงานด้วย มีแผนสร้างเสร็จภายในปี 2030 โดยใช้งบประมาณ $200 พันล้าน หรือมากกว่า 6 ล้านล้านบาท


เฟสแรกใช้เงินทุนสร้าง $5 พันล้าน เป็นโซลาร์ฟาร์มขนาด 7.2GW เริ่มสร้างในปี 2018 และสามารถให้บริการได้ภายในปี 2019


นั่นหมายความว่า ซาอุดิอาระเบียจะมีโรงไฟฟ้าโซลาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และหากสร้างครบ 200GW ก็หมายถึงกำลังผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์ฟาร์มที่มากที่สุดในโลกด้วย


นับถึงสิ้นปี 2016 ทั่วโลกมีไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มประมาณ 319GW โรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในซาอุดิอาระเบียที่กำลังจะสร้าง 200GW หมายถึงกำลังไฟฟ้าโซลาร์ประมาณ 2 ใน 3 ที่มีอยู่ทั่วโลกในปัจจุบัน


ในปัจจุบัน ซาอุฯมีกำลังผลิตไฟฟ้า 77GW เชื้อเพลิงที่ใช้ 2 ส่วนมาจากก๊าซ อีก 1 ส่วนเป็นน้ำมัน หากโซลาร์ฟาร์ม 200GW สร้างเสร็จ หมายถึงการมีพลังงานไฟฟ้าเกินความต้องการใช้มากกว่า123GW ซึ่งอาจได้เห็นการส่งออกพลังงานโซลาร์ของซาอุฯ


ซาอุดิอาระเบียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก และมีต้นทุนการผลิตน้ำมันต่อบาร์เรลต่ำที่สุด ในวันนี้เป็นยุคเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ ซาอุฯคงไม่สามารถพึ่งพารายได้จากน้ำมันได้ตลอดไป การสร้างโซลาร์ฟาร์มใหม่แทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้ในประเทศ ช่วยทำให้ซาอุฯมีน้ำมันส่งออกมากขึ้น ระยะเวลาที่จะกอบโกยความมั่งคั่งจากทรัพยากรน้ำมันคงเหลืออยู่อีกไม่นาน ช่วงที่ยังขายได้ต้องขายให้ได้มากที่สุดก่อน


สถิติโลกต้นทุนค่าไฟที่ต่ำที่สุดในโลกล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 อยู่ที่ 2.34 เซนต์ต่อหน่วย หรือ 73 สตางค์ (31.36 บาทต่อ1$) เป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์พลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 300 เมกกะวัตต์ ในซาอุดิอาระเบีย แต่จะเป็นสถิติที่รอถูกทำลายจากโซลาร์ฟาร์มแห่งใหม่ในซาอุฯแน่ๆ อาจได้เห็นต้นทุนที่ต่ำกว่า 2 เซนต์ต่อหน่วยในเร็วๆนี้ก็ได้!!!


นับตั้งแต่ปี 2000-2016 มีการติดตั้งแผงโซลาร์เพิ่มขึ้นทั่วโลกแต่ละปีประมาณ 40% หรือเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวทุก 2 ปี สิ้นสุดปี 2016 มีการติดตั้ง Solar PV ทั่วโลกรวม 319,356 เมกะวัตต์ คิดเป็น 1.5% ของพลังงานทุกรูปแบบที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก หากอัตราส่วนการเติบโตยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป อีก 14 ปี หรือภายในปี 2030 โซลาร์ที่ได้พลังงานจากแสงอาทิตย์อาจเป็นพลังงานที่ใช้กัน 100% ของคนทั้งโลก


แผนการสร้างโซลาร์ฟาร์ม 200GW ให้เสร็จภายในปี 2030 ของซาอุดิอาระเบีย ก็สอดคล้องกับการประเมินว่าเป็นปีที่พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นพลังงานหลักของโลก


สำหรับความห่วงใยเรื่องพื้นที่สำหรับการสร้างโซลาร์ฟาร์มว่ามันต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก และอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะมันใช้พื้นที่น้อยมาก


มีการศึกษาวิจัยที่ชี้ชัดว่า หากสร้างโซลาร์ฟาร์มในทะเลทรายซาฮาราที่มีพื้นที่ 9 ล้านตารางกิโลเมตร จะใช้พื้นที่เพียง 1.2% หรือประมาณ 108,000 ตารางกิโลเมตร ก็เพียงพอสำหรับการใช้ไฟฟ้าของคนทั้งโลก


เห็นข่าวนี้แล้วรู้สึกทึ่งในวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลของผู้นำซาอุฯ อยากเห็นแบบนี้ในประเทศไทยบ้าง......

World solar insolation map.
   
Visitors: 621,493