รัฐแจงกฎหมายคุมอาคารลดใช้พลังงานไม่กระทบต้นทุน
|
|||
แหล่งที่มา : www.prachachat.net | วันที่โพสต์ : 25 มี.ค. 2561 | ||
รัฐแจงกฎหมายคุมอาคารลดใช้พลังงานไม่กระทบต้นทุน | |||
![]() |
|||
พพ.แจงบังคับใช้กฎกระทรวง เพื่อควบคุมอาคารใหม่ ไม่กระทบต้นทุนก่อสร้างอาคาร-คอนโดฯ เล็งปรับรายละเอียดใหม่ทุก 5 ปี ตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี คาดในอีก 20 ปีข้างหน้าลดมูลค่าการใช้พลังงานได้ 48,000 ล้านบาท ตามที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานได้ออกกฎกระทรวงกำหนดประเภท หรือขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2561 หรือ Building Energy Code เพื่อเป็นมาตรการบังคับใช้ขั้นต่ำกับอาคารขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการใช้พลังงานสูง ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ประกอบการกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ว่า ประกาศดังกล่าว ส่งผลกระทบต้นทุนการก่อสร้างนั้นนายโกมล บัวเกตุ ผู้อำนวยการสำนักกำกับและอนุรักษ์พลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตามรายละเอียดของกฎกระทรวงดังกล่าว เป็นเพียงมาตรฐานเบื้องต้นที่ไม่ได้มีความซับซ้อน ให้น้ำหนักการออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานใน4 ประเด็นหลักคือ 2) หลังคาอาคารจะต้องมีการใส่ฉนวนเพื่อป้องกันความร้อน ส่งผลให้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศน้อยลง “บางรายก่อสร้างอาคารได้ดีกว่าที่ พพ.กำหนดไว้อีก เช่น อาคารเอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (Energy Complex) ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่ถือว่าเป็นอาคารประหยัดพลังงานแบบพรีเมี่ยม คือทำได้ดีกว่าที่มาตรฐานกำหนดไว้ ซึ่งยังมีอีกหลายอาคารใหม่ในประเทศที่จะออกแบบอาคารให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด ซึ่งเป็นความสมัครใจ บางรายยื่นขอมาตรฐานสากลด้วยซ้ำ เพราะเขาเห็นว่าได้ประโยชน์ทั้งในด้านการโปรโมตองค์กรและต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในอนาคตด้วย” นายโกมล กล่าวเพิ่มเติมว่า พพ.เชื่อมั่นว่าในอนาคตเทคโนโลยีที่ดีขึ้นจะส่งผลให้วัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องใช้พลังงานถูกพัฒนาให้ใช้ไฟน้อยลงไปเรื่อย ๆ ฉะนั้นกฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องสอดคล้องกันด้วย จึงมีแนวคิดว่าจะต้องมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในทุก 3-5 ปี โดยเฉพาะในส่วนของ “ค่าอนุรักษ์พลังงาน” ที่อาคารใหม่จะต้องดำเนินการ เช่น จากเดิมที่กำหนดว่าเมื่อเทียบต่อตารางเมตร การใช้พลังงานจะอยู่ที่ 50 วัตต์ ก็จะให้ลดลงเหลือเพียง 40 วัตต์ และ 10 วัตต์ เป็นต้น ทั้งนี้ เป้าหมายของแผนอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2558-2579 หรือแผน EEP 2015 (Energy Efficiency Plan) กำหนดว่า ภายใน 20 ปีจะสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ 13,700 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่า 48,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมองว่า สำหรับอาคารใหญ่ในอนาคตจะสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองได้ด้วย |
|||
ขอบคุณข่าวจาก : prachachat.net |