หน้าใหม่

 
แหล่งที่มา : www.thansettakij.com วันที่โพสต์ :  8 มี.ค. 2561
       
 
กมธ.ภาษีที่ดิน ไขข้อข้องใจดีเวลอปเปอร์ พัฒนาโครงการบ้าน-คอนโดฯหลังยกเว้น 3 ปี ระหว่างก่อสร้าง-ขายหากขายไม่ทัน โดนภาษีอัตราพาณิชย์ เหตุอยู่ในความครอบครองของบริษัท ด้านศุภาลัยแนะบ้านจัดสรรควรทำไซซ์เล็ก /อีอาร์เอ ยํ้า บวกราคาดักไปแล้ว

แม้กมธ. จะผ่อนคลายภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง แต่การตีความจำนวนหน่วยเหลือขายโครงการ บ้านและคอนโดมิเนียม ยังไม่ชัดเจนว่า จะเสียอัตราใด เมื่อครบ 3 ปี หลังยกเว้น 3 ปี นับจากได้รับใบอนุญาตฯ เป็นต้นไป
    
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญ ร่างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ..เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กมธ. พิจารณาบรรเทาภาษี เพื่อช่วยผู้ประกอบ การเป็นเวลา 3 ปี นับจากได้รับใบอนุญาตจัดสรรกรณีบ้านจัดสรร และใบอนุญาตก่อสร้างกรณีคอนโดมิเนียม หากพ้น 3 ปี ยังขายไม่หมดต้องเสียภาษีอัตราพาณิชย์คือ 1.2% ตามมูลค่าราคาประเมิน เพราะยังอยู่ในความครอบครองของบริษัท


จากการสำรวจของ กมธ.พบว่า ผู้ประกอบการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม เพียง 1-2 วันก็ขายหมด และปริมาณที่อยู่อาศัยมาพิจารณาเช่นกัน ขณะที่การก่อสร้างได้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่ทันสมัย เช่น คอนกรีตสำเร็จรูป ช่วยร่นระยะเวลา  
กลับกัน หากโครงการอยู่ในทำเลไม่เหมาะสม แต่ผลิตขายจำนวนมาก แต่ความต้องการน้อย แม้ก่อสร้างเร็วก็มีปัญหานอกจากขายไม่ได้แล้ว ยังกระทบกับภาษีด้วย


มาตรการนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการวางแผนการตลาดสะท้อนกำลังซื้อจริง มีการตรวจสอบข้อมูลดีมานด์ซัพพลายก่อนพัฒนาป้องกันไม่ให้เกิดฟองสบู่ ซึ่ง กมธ. ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาด้วย นอกจากนี้ ยังยกเว้นการจัดเก็บภาษี ทรัพย์ส่วนกลาง สาธารณูปโภคในโครงการบ้านจัดสรรและคอนโด มิเนียม เพื่อไม่ให้เกิดต้นทุนที่ผู้ประกอบการผลักภาระให้กับผู้บริโภค
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ร่างกฎหมาย ยังไม่เปลี่ยน แปลง หลังจากปรับลดอัตราเพดานภาษีลง 40% ตามที่ สภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ ฯลฯ สะท้อนมา มั่นใจว่าทุกกลุ่มสามารถรับภาระจากภาษีได้ จะเห็นได้จากการลงสำรวจบ้านหลังหลักมูลค่า 20 ล้านบาท ทั่วประเทศพบว่ามี 99% ส่วนมูลค่าเกิน 20% มี 1% หรือ 10,000 หน่วยเท่านั้น เพื่อความชัดเจน กมธ.จะทำบัญชีอัตราภาษีแต่ละประเภทแนบท้ายเพื่อให้ประชาชนคลายความกังวล ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ให้มากที่สุด


นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ประกอบการได้รับยกเว้นภาษี 3 ปี หากขายหมด จะกระทบน้อยมาก ทางออกหากต้องการขายโครงการให้หมดภายใน 2 ปี ต้องพัฒนาจำนวนหน่วยไม่มาก เช่น บ้านจัดสรรประมาณ 200-300 หน่วย ขณะที่ คอนโด มิเนียม 1,000 หน่วย ได้แต่ต้องอยู่ในทำเลดี แต่ต้องเป็นดีเวลอปเปอร์ที่มีความแข็งแรง มีมาตรฐานที่ดี ราคาต่อหน่วยไม่สูงเกินไป


นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรีกล่าวว่า ในจังหวัดชลบุรีมีโครงการเหลือขายอยู่มากไม่ตํ่ากว่า 2-3 หมื่นหน่วยเชื่อว่าต้องใช้เวลาระบายออกมากกว่า 5 ปีนับจากนี้ แต่หากเป็นคอนโดมิเนียมทำเลดีก็สามารถเจรจาให้นักลงทุนจีนเหมาไปได้


นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานบริหาร บริษัท อีอาร์เอ แฟรนไชส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ERA ระบุว่า บ้านใหม่ที่ผู้ประกอบการขายไม่หมดบ้านมือสอง และทรัพย์แบงก์ จะบวกราคาขายเพิ่มไว้แล้วหากต้องเสียภาษีอัตราพาณิชย์ แต่ผู้บริโภคจะซื้อบ้านแพงขึ้น
   
ขอบคุณข่าวจาก : thansettakij.com
 
Visitors: 628,705