แหล่งที่มา : www.transportjournalnews.com วันที่โพสต์ :  21 ก.พ. 2561
       
มหากาพย์! “ท่าเรือน้ำลึกปากบารา – คมนาคมสั่งชะลอ
โยน จท.ศึกษาใหม่ 6 เดือน 

“คมนาคม” สั่งชะลอท่าเรือน้ำลึกปากบารา มอบให้ จท. ศึกษาใหม่ภายใน 6 เดือน เร่งแจงประชาชนในพื้นที่ หลังโดนคัดค้านหนัก พร้อมเปิดทางกลุ่มบิ๊กทุนร่วมพีพีพี หวั่นเสียโอกาสให้มาเลเซียหากพับโครงการ ขณะเดียวกันชงเปิดร่วมทุนพีพีพีท่าเรือครุยส์ 4 พันล้าน

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมโครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา จังหวัดสตูลว่า เป็นการประชุมเพื่อข้อรับทราบข้อมูลและติดตามสถานะความคืบของโครงการฯโดยเฉพาะด้านผลกระทบด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมได้สั่งการให้กรมเจ้าท่ากลับไปจัดทำแผนการศึกษาใหม่ภายใน 6 เดือน โดยเฉพาะขั้นตอนการทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่

ด้านแหล่งข่าวจาก กรมเจ้าท่า หรือ จท. เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้ชะลอโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกปากบารา วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาทออกไปก่อน หลังจากที่ยังไม่สามารถสรุปรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ได้หลังจากที่มีการต่อต้านจากชาวบ้านในพื้นที่จนไม่สามารถเปิดเวทีรับฟังความเห็นขอบเขตและแนวทางประเมินผลกระทบ หรือ ค.1 (Public Scoping) ทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือ การสำรวจความคิดเห็นประชาชนและจัดทำรายงาน หรือ ค.2 (Public Assessment) และ การรับฟังความคิดเห็นและทบทวนรายงาน หรือ ค.3 (Public Reviewing) ได้ ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมมีแนวคิดปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินโครงการเพื่อสนับสนุนให้โครงการเดินหน้าได้รวดเร็วขึ้นและลดข้อพิพาทขัดแย้งกับคนในพื้นที่ โดยจะเปลี่ยนจากรัฐบาลลงทุนเองทั้งหมดเป็นการเปิดให้เอกชนร่วมทุนแบบพีพีพี เนื่องจากเอกชนสามารถดำเนินโครงการพัฒนาและเสนอค่าตอบแทนให้กับชาวบ้านได้ดีกว่าที่รัฐบาลทำ

อย่างไรก็ตาม กรมเจ้าท่า มองว่าเอกชนที่จะเข้ามาลงทุนในท่าเรือปากบารานั้นต้องเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ที่มีศักยภาพด้านแหล่งเงินทุนและมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาท่าเรือพร้อมกับยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนโดยรอบเพื่อสร้างให้เกิดการยอมรับในวงกว้างต่อไป ทั้งนี้หากประเทศไทยยังไม่สามารถพัฒนาท่าเรือน้ำลึกปากบาราดังกล่าวได้อาจส่งผลให้เสียศักยภาพการแข่งขันด้านโลจิสติกส์ทางน้ำให้กับประเทศมาเลเซียอีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการขนส่งทางน้ำจากประเทศมาเลเซียในอนาคตอีกด้วย

ขณะที่นายณัฐ จับใจ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือสำราญ (ครุยส์) วงเงินลงทุน 4 พันล้านบาท บริเวณเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีว่า โครงการดังกล่าว เพื่อส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวของประเทศและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของการท่องเที่ยวทางน้ำ ขณะนี้ส่งเรื่องเข้าไปยังกระทรวงคมนาคมแล้วเพื่อให้ผู้บริหารพิจารณาเห็นชอบโครงการต่อไป

ด้านแหล่งข่าวจากกรมเจ้าท่า กล่าวว่า หลังจากนี้กรมเจ้าท่าจะเดินหน้าศึกษาแนวทางการลงทุนโรงการท่าเรือครุยส์ คาดว่าจะใช้รูปแบบการเปิดให้เอกชนร่วมทุนหรือพีพีพี ใช้เวลาศึกษาราว 7-8 เดือน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะส่งผลศึกษารูปแบบลงทุนดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ภายในปีนี้ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.เพื่อเปิดประมูลต่อไป

   
ขอบคุณข่าวจาก : transportjournalnews.com
 
Visitors: 635,400