หน้าใหม่

 
แหล่งที่มา : www.sanook.com วันที่โพสต์ :  20 ก.พ. 2561
       
'ไทยพาณิชย์' คาดหุ่นยนต์จะทำแรงงานไทยตกงาน 650,000 คน 
การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อัตราการเกิดที่ลดลง ค่าแรงที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ประกอบกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้ศูนย์กลางความรู้ทางเศรษฐกิจและธุรกิจ  แห่งธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ Economic Intelligence Center (EIC) คาดการณ์ว่า หุ่นยนต์อาจเข้ามาทำงานแทนแรงงานไทยกว่า 6.5 แสนคน ภายในปี 2030

ด้วยประโยชน์ของหุ่นยนต์ที่ทำงานได้เร็วกว่าแรงงาน ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนการผลิตถูกลง หุ่นยนต์ทำงานได้แม่นยำกว่า รวมทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงาน ค่าแรงสูงขึ้น ราคาหุ่นยนต์ลดลง ฯลฯ ทำให้ความต้องการหุ่นยนต์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมหุ่นยนต์อุตสาหกรรม (Industrial Robots: IR) ทั้งส่งเสริมกิจการที่ผลิตหุ่นยนต์ และส่งเสริมให้มีการใช้หุ่นยนต์

ในปี 2559 ไทยมีการนำเข้ามาราว 13,500 ตัว ส่วนมากใช้ในโรงงานยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม

รายงานระบุว่า สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการลงทุนในหุ่นยนต์ ในงานเชื่อมสปอต (spot welding) สามารถทดแทนการใช้แรงงานได้ประมาณ 5 คนต่อตัว ซึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณตัวละ 3.5 – 4.5 ล้านบาท กับต้นทุนการจ้างแรงงานเชื่อมสปอตในปัจจุบันที่มีค่าแรงวันละ 400 – 480 บาท พบว่าระยะเวลาที่ผู้ประกอบการจะคุ้มทุนจากการลงทุนในหุ่นยนต์จะอยู่ที่ราว 8-10 ปี

ขณะที่การใช้งานหุ่นยนต์สำหรับงานทั่วไปในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ตัวละ 1.2 ล้านบาทต่อตัว และสามารถทดแทนแรงงานได้ราว 2 คนต่อตัว ผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่จะคุ้มทุนภายในระยะเวลา 6-10 ปี จากอัตราค่าจ้างในปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 300 – 450 บาทต่อวัน

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบระยะเวลาคุ้มทุนกับอายุการใช้งานหุ่นยนต์ที่มีอายุประมาณ 8-12 ปี จึงสามารถสรุปได้ว่า ณ ระดับค่าจ้างในปัจจุบัน การลงทุนในหุ่นยนต์เพื่อทดแทนการใช้แรงงานอยู่ในระดับที่คุ้มค่ากับการลงทุนแล้ว

 

อีไอซีคาดว่าแนวโน้มการใช้หุ่นยนต์ที่มากขึ้นของไทย จะส่งผลให้แรงงานกว่า 6.5 แสนคน หรือราว 15% ของจำนวนแรงงานทั้งหมดในภาคการผลิตจะถูกแทนที่ภายในปี 2030 จากสถานการณ์ที่การใช้หุ่นยนต์เพื่อทดแทนแรงงานเริ่มมีความคุ้มค่ามากขึ้นในปัจจุบัน

ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมแรก ๆ ที่แรงงานมีโอกาสถูกแทนที่ คือ อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น (Labor Intensive) และมีลักษณะงานที่ทำซ้ำ ๆ กันอย่างต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องดื่ม ที่มีการจ้างงานรวมกันราว 2 ล้านคน

โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะเมื่อพิจารณาสัดส่วนการใช้หุ่นยนต์ต่อการผลิตรถยนต์ของไทยที่อยู่ในระดับ 16 ตัวต่อการผลิตรถยนต์ 1,000 คัน มีค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับ 40 ตัวต่อการผลิตรถยนต์ 1,000 คัน แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ผู้ประกอบการจะลงทุนในหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมากขึ้นในอนาคต

แม้ว่าหุ่นยนต์อาจทำให้แรงงานตกงาน แต่ก็สร้างงานใหม่เช่นกัน เช่น งานออกแบบระบบอัตโนมัติ งานเขียนโปรแกรม งานซ่อมบำรุ่งหุ่นยนต์ เป็นต้น แต่ท้ายที่สุดนี้ อีไอซีแนะนำว่า ภาครัฐ เอกชน หน่วยงานต่าง ๆ ควรส่งเสริมพัฒนาทักษะให้กับแรงงานเพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการที่เปลี่ยนไป

   
ขอบคุณข่าวจาก : sanook.com
ขอบคุณภาพ :
 iStockPhoto
 
Visitors: 621,145