หน้าใหม่

 
แหล่งที่มา : www.mgronline.com วันที่โพสต์ :  8 ก.พ. 2561
       
คนเยอรมันลดเวลาทำงาน ค่าแรงเพิ่ม 
ผู้ใช้แรงงานเยอรมนีมีโอกาสได้เลือกชั่วโมงทำงานน้อยลง หรือมากขึ้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับนายจ้าง เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตตามปกติ กับการทำงาน ซึ่งสามารถทำงานน้อยที่สุดทางเลือกมีให้คือ 28 ชั่วโมงใน 1 สัปดาห์

ใครจะขยันทำมากถึง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็ย่อมได้ ถ้ามีพลัง และต้องการรายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ทางเลือกใหม่นี้เป็นรูปแบบของการทำงานภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี มีนายจ้างทั้งชื่นชมและบ่นพึมว่าจะทำให้เปลี่ยนไป

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมนีถือว่าเป็นประเทศที่คนทำงานหนักกว่าทุกชาติในยุโรป เพื่อเร่งฟื้นฟูความรุ่งเรืองหลังจากพ่ายแพ้สงครามอย่างย่อยยับ แต่ไม่ยอมย่อท้อ ไม่มุ่งเอาความสบาย ชั่วโมงทำงานจึงยาวนานกว่าหลายประเทศ

นั่นเป็นเพราะสหภาพแรงงานของเยอรมนียังไม่อยากเรียกร้องเงื่อนไขที่ต้องทำงานสบาย แนวคิดการใช้ชีวิตยังมุ่งสร้างรายได้ จนเข้าสู่ยุคปัจจุบันที่มองว่าการทำงานมากเกินไปทำให้การใช้ชีวิตไม่เต็มที่ ต้องการเวลาสำหรับหาความสุขด้วย

ก่อนมีข้อตกลงครั้งล่าสุดนี้ สมาชิกของสหภาพแรงงานโดยทั่วไปต้องทำงาน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งก็ยังมากกว่าในหลายประเทศในยุโรป

ก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสต้องยอมสหภาพแรงงานกดดัน ลดชั่วโมงทำงานเหลือ 28 ชั่วโมง เทียบกับเยอรมนีซึ่งคนทำงาน 40 หรือ 45 ชั่วโมง จนไม่ต่างสภาพกับม้าใช้งานในยุโรปซึ่งมีร่างการบึกบึน ลากรถบรรทุกถังเบียร์ขนาดใหญ่ส่งให้ลูกค้าทุกเช้า

ข้อตกลงเรื่องชั่วโมงทำงานใหม่มีขึ้นหลังจากการเจรจากับกลุ่มสหภาพแรงงาน ไอจี เมทัล ทำให้ผู้ใช้แรงงานเลือกทำงานได้ 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือเลือกที่จะทำนานถึง 40 ชั่วโมง ไม่ตายตัว ปรับเปลี่ยนได้ตามข้อตกลงกับบริษัทนายจ้าง

นอกจากจะได้เปลี่ยนลดชั่วโมงทำงานแล้ว สหภาพไอจี เมทัล ยังต่อรองได้เงินค่าแรงเพิ่มอีกมากสำหรับสมาชิกจำนวน 2.3 ล้านคนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

หลายสหภาพพลอยได้อานิสงส์จากการเจรจาของไอจี เมทัลด้วย

นั่นหมายความว่าภายใต้ข้อตกลงใหม่ ลูกจ้างของบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีเช่นผู้ผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ มีทางเลือกที่จะทำงานเพียง 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นเวลา 2 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีหน้า หลังจากนั้นจะทำเหมือนเดิม

นั่นคือการทำงาน 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ตามมาตรฐาน ข้อตกลงนี้เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพราะปัจจุบันอัตราการว่างงานในเยอรมนียังต่ำกว่าหลายชาติ การเจรจาครั้งนี้นำโดยไอจี เมทัล มีตัวแทนของกว่า 700 บริษัทในภาคอุตสาหกรรม

ข้อตกลงนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปทั่วประเทศ เพราะถือว่ามีผลบังคับใช้กับสหภาพอื่นๆ ด้วย และถูกมองว่าเป็นชัยชนะของกลุ่มสหภาพแรงงาน หลังจากการต่อรองยาวนาน โดยทั้งฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้างไม่ต้องการให้มีการสะดุด

สหภาพแรงงานมีข้อต่อรองเมื่ออัตราการว่างงานต่ำ แรงงานหายาก และเศรษฐกิจของเยอรมนียังขยายตัวด้วยความแข็งแกร่ง และจะนำไปสู่การต่อรองเรื่องการจ้างงานในภาคธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรมหนักเช่นรถยนต์

รถยนต์และการผลิตเกี่ยวโยงกับวิศวกรรมเป็นฐานสำคัญในภาคการผลิตของเยอรมนี และข้อตกลงนี้แรงงานไม่สังกัดสหภาพก็จะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน

กลุ่มเดมเลอร์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเมอร์เซเดส เบนซ์ ก็ยอมรับสภาพข้อตกลงใหม่ และบอกว่าก่อนการเจรจาบริษัทก็ได้ให้พนักงานมีชั่วโมงทำงานไม่ตายตัว ปรับเปลี่ยนได้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่น่าจะเกิดปัญหาในการผลิตเมื่อเริ่มใช้ในปีหน้า

กลุ่มบอชช์ อุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่มีพนักงานมากถึง 138,000 คน ก็ยอมรับสภาพเงื่อนไขใหม่สำหรับบริษัทในเครือ จะเพิ่มค่าแรงและสวัสดิการต่างๆ ให้ตามข้อตกลง ชั่วโมงการทำงานที่คล่องตัวก็ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตแต่อย่างใด

โฆษกของบอชช์ แถลงว่าบริษัทในเครือต่างมีรูปแบบชั่วโมงทำงานที่คล่องตัวปรับเปลี่ยนได้มากกว่า 100 แบบ จึงไม่เกิดปัญหา ทั้งนี้เพื่อให้พนักงานมีความสมดุลชีวิตระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิตโดยทั่วไป ไม่มีแรงกดดันจนเกินไป

แต่ซูเอดเวสต์ เมทัล ซึ่งเป็นตัวแทนสมาคมนายจ้าง บอกว่าเป็นการยอมรับข้อตกลงที่มีความเจ็บปวด มีหลายกิจการที่จะได้รับผลกระทบ แต่ก็จำต้องรับสภาพ หลายบริษัทคงประเมินว่าไม่ง่ายนักที่จะปรับให้เข้าสู่สภาวะใหม่โดยไม่เจ็บช้ำ

โฆษกของสมาคมเกรงว่าชั่วโมงการทำงานที่น้อยลงอาจนำไปสู่การขาดแคลนแรงงานได้ แต่ก็ยังหวังว่าจะมีแรงงานส่วนหนึ่งยินดีที่จะทำงานนานกว่าเพื่อหวังรายได้เพิ่ม มีหลายบริษัทยอมให้พนักงานทำงาน 30, 35 และ 40 ชั่วโมงแล้วด้วย

พวกที่อยากทำงานนานกว่า 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็มี เพิ่มรายได้มากขึ้น ประเทศเยอรมนีจะได้รับประโยชน์ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในอัตราที่น่าพอใจ เพราะคนทำงานได้รายได้เพิ่ม และมีเวลามากขึ้นกว่าเดิมในการออกไปใช้เงิน

สหภาพไอจี เมทัล ยินยอมสำหรับการขึ้นค่าแรงให้สมาชิก 4.3 เปอร์เซ็นต์เริ่มในเดือนเมษายนเป็นต้นไป ซึ่งนับว่ามากเมื่อเทียบการได้ขึ้นค่าแรงเพียง 3.8 เปอร์เซ็นต์ในตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการดีสำหรับทุกฝ่าย

ทั้งนี้เพราะอัตราค่าแรงที่เพิ่มขึ้นยังสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ เท่ากับเป็นการเพิ่มอำนาจการซื้อของผู้บริโภคนั่นเอง ทุกฝ่ายมีแต่ได้กับได้ เศรษฐกิจของเยอรมนียังเป็นแรงพยุงสำหรับประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่ยังเผชิญปัญหาเรื้อรัง ต้องพึ่งพาเยอรมนี
   
ขอบคุณข่าวจาก : www.mgronline.com
 
Visitors: 631,586