ปากีสถาน แปลงขี้วัวเป็นพลังงานขับเคลื่อนรถบัส
| |
|||
| แหล่งที่มา : http://news.ch3thailand.com |
วันที่โพสต์ : 27 ก.พ. 2562 | ||
| ปากีสถาน แปลงขี้วัวเป็นพลังงานขับเคลื่อนรถบัส | |||
| การาจี เมืองท่าของปากีสถาน ก็เหมือนเมืองใหญ่ทั่วโลกที่ต้องเผชิญปัญหามลพิษทางอากาศและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมาก แต่สุดท้ายรัฐบาลปากีสถานก็พบทางแก้ปัญหาดังกล่าว โดยใช้ของใกล้ตัว อย่าง “ขี้วัว” มาทำแก๊สชีวภาพใช้ขับเคลื่อนรถโดยสารประจำทางในโครงการระบบขนส่งมวลชนใหม่ “รถโดยสารด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ที (BRT)” จำนวน 200 คัน ซึ่งจะเริ่มวิ่งให้บริการประชาชนครั้งแรกอย่างเป็นทางการในปีหน้าที่จะถึงนี้ นับเป็นโครงการขนส่งมวลชนแรกที่กองทุนสู้โลกร้อน หรือ กรีน ไคลเมท ฟันด์ (Green Climate Fund) อนุมัติเงินสนับสนุน จำนวนมากถึง 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,500 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการนี้ ซึ่งต้องใช้เงินทั้งหมด 538.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.68 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีผู้สนับสนุนเงินดำเนินโครงการอีก 2 แห่ง คือ ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี (ADB) และรัฐบาลแคว้นสินธ์ (Sindh) สำหรับรถโดยสารประจำทางบีอาร์ทีเติมแก๊สชีวภาพจากขี้วัว เมื่อเปิดให้บริการจะวิ่งรับ-ส่งประชาชนเป็นระยะทาง 30 กิโลเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้วันละ 320,000 คน จะมีผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากขนส่งมวลชนดังกล่าวกว่า 1.5 ล้านคน พร้อมกันนี้ ยังเพิ่มสถานีรถโดยสารประจำทางในเมืองการาจีเพิ่มอีก 25 แห่ง มีการปรับปรุงทางเท้าริมถนน อีกทั้ง เพิ่มทางข้ามถนนที่ปลอดภัยและช่องสำหรับผู้ปั่นจักรยาน พร้อมสถานีเอื้ออำนวยความสะดวกเพื่อจักรยานโดยเฉพาะด้วย ที่สำคัญ ยังช่วยลดมลพิษทางอากาศ เนื่องจากก๊าซเรือนกระจกที่มาจากควันท่อไอเสียรถยนต์ถูกปล่อยลดลง รวมถึงเสียงรบกวนบนท้องถนน นอกจากนี้ ในแต่ละวันปากีสถานจะช่วยลดปริมาณขี้วัวถูกทิ้งลงมหาสมุทรกว่า 3,200 ตัน เปลี่ยนมาใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ปุ๋ย และก๊าซชีวภาพขับเคลื่อนรถโดยสารสาธารณะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลที่ตามมายังช่วยประหยัดน้ำที่ใช้ชำระล้างขี้วัวที่ลอยมาเกยตื้นตามชายหาดได้มากกว่า 180,000 ลิตรตามไปด้วย ขณะเดียวกันรัฐบาลการาจีก็ตั้งเป้าจะทำให้ประชาชนใช้บริการขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 เนื่องจากปัจจุบันคนส่วนใหญ่นิยมเรียกแท็กซี่ออนไลน์และตุ๊กๆ หรือแม้กระทั่งรถส่วนตัว อันเป็นตัวการหนึ่งที่สร้างก๊าซเรือนกระจกมหาศาลในการาจี ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศสำเร็จได้จริง ทางการการาจีวางแผนนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมคุณภาพดีมากขึ้น แทนที่การนำเข้าน้ำมันเกรดต่ำ และเพื่อให้การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมนี้เป็นแบบยั่งยืน อาหมัด ราเฟย์ (Ahmad Rafay) ทนายความสิ่งแวดล้อมได้แนะให้เมืองใหญ่ทั่วปากีสถานเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนสาธารณะไปพร้อมกับความเจริญที่ขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ |
|||
