Circular Economy วิถีเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืน

 
แหล่งที่มา : www.bangkokbanksme.com วันที่โพสต์ :  1 ก.พ. 2562
       
Circular Economy วิถีเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืน

เศรษฐกิจหมุนเวียน แนวคิดการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตและสังคม เป็นประเด็นที่ธุรกิจ SME ต้องใส่ใจและปรับตัว

ในการธุรกิจ ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินคำว่า ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’ หรือ ‘Circular Economy’ กันมาบ้าง สืบเนื่องจากโลกของเรานับวันจะใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น อุณหภูมิโลกก็สูงขึ้น ขณะที่ขยะกำจัดเท่าใดก็ไม่มีวันหมดเหล่านี้ล้วนทำให้ระบบเศรษฐกิจต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิต และปัญหามลภาวะของสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น ดังนั้นโลกจึงพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการใช้นโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน  เรื่องนี้ไม่ใช่เทรนด์ของโลก แต่เป็นพันธะกิจที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและพยายามผลักดันภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในแต่ละประเทศให้ตระหนักถึงความสำคัญ

ระหว่างการประชุม World Circular Economy Forum 2018 ที่จัดขึ้น ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น มีการประกาศวิสัยทัศน์สู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในปีค.ศ. 2050 ที่รวมถึงด้านทรัพยากรธรรมชาติ การผลิต การขนส่ง การบริการ อาหาร การใช้ชีวิต พลาสติก และการพัฒนาศักยภาพ  วิสัยทัศน์ดังกล่าวตั้งอยู่บนความตระหนักถึงว่าเราอยู่ในจุดสำคัญในประวัติศาสตร์ที่สังคมโดยรวม ต้องการที่จะเลือกอนาคตที่ยั่งยืนซึ่งสร้างขึ้นจากหลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียน รูปแบบการบริโภคในปัจจุบันของมนุษย์ไม่เพียง แต่เป็นภัยคุกคามต่อระบบสังคมเศรษฐกิจและระบบเศรษฐกิจทั่วโลกในอนาคตเท่านั้น ในปัจจุบันผลด้านลบในรูปแบบการบริโภคดังกล่าวเริ่มแสดงอาการให้เห็นได้ทั่วโลกแล้ว  เศรษฐกิจแบบหมุนเวียนจึงกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการ สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามการสำรวจรากเหง้าของปัญหาปัจจุบันก็เป็นสิ่งที่สำคัญ รวมทั้งการสร้างสะพานความร่วมมือในระดับโลกและระดับท้องถิ่น รวมทั้งการหาจุดร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนรัฐ และประชาชนในการสร้างอนาคตร่วมกัน วิสัยทัศน์ดังกล่าวเป็นการสร้างจินตนาการเปรียบเทียบว่าอนาคตน่าจะเป็นอย่างไรภายใต้การดำเนินตามปกติและภายใต้เศรษฐกิจหมุนเวียนในแต่ละด้าน


ทรัพยากรธรรมชาติและการผลิต

ปัจจุบัน  : เศรษฐกิจยังอยู่บนพื้นฐานของเชื้อเพลิงถ่านหินและการสกัดทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่ยั่งยืน ผลิตภัณฑ์และวัสดุส่วนใหญ่จะถูกใช้และไปสิ้นสุดในหลุมฝังกลบ กระบวนการผลิตมีการปรับให้เหมาะกับการทำงานในทิศทางเดียว ตั้งแต่การสกัดและสังเคราะห์ไปจนถึงการบริโภคและการกำจัด

ภายใต้เศรษฐกิจหมุนเวียน : ผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบด้วยความระมัดระวัง อายุการใช้งานและ lifecycle มีการเพิ่มมูลค่าผ่าน 3R, upcycling การอัพเกรดและซ่อมแซม อุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่นอุตสาหกรรมการผลิตและการเกษตรทำงานในระบบหมุนเวียนสิ้นเชิง (Closed loops) ไม่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น เครือข่ายมูลค่าทั่วโลกผ่านการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และการปรับให้เหมาะกับเทคโนโลยีดิจิตอลและระบบอัตโนมัติ ของเสียกลายเป็นวัตถุดิบและพลังงาน มนุษย์รับรู้ถึงทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด เศรษฐกิจได้รับการปรับให้เข้ากับขอบเขตของระบบนิเวศน์ การลงทุนมุ่งสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน

คมนาคมและการให้บริการ

ปัจจุบัน : ยานพาหนะติดขัด ถนนแออัด การปล่อยมลพิษทางอากาศจากแก๊ส ทำให้คุณภาพอากาศในเมืองต่ำ ยานพาหนะไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนเองมีราคาสูงและคนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึง ระบบขนส่งสาธารณะมีราคาแพงและเครือข่ายการขนส่งเสื่อมลง

ภายใต้เศรษฐกิจหมุนเวียน : การให้บริการแบบออนดีมานด์ด้วยยานพาหนะที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ทำให้การขนส่งสะดวกและมีคุณภาพสูงและมีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น การเชื่อมต่อความเร็วสูงและการสื่อสารแบบไร้รอยต่อทำให้เราสามารถใช้บริการต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์ วัสดุใหม่และสารชีวเคมีสามารถผลิตเชื้อเพลิงยานพาหนะและโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาหารและการใช้ชีวิต

ปัจจุบัน  :การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อผลิตพลังงานยังคงเร่งภาวะโลกร้อน ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถเป็นที่อาศัยอยู่ มีความพยายามที่จะเพิ่มการผลิตอาหารเพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรโลกภายใต้วัฏจักรสภาพอากาศที่ไม่สม่ำเสมอทำให้เกิดการพังทลายของดินอย่างรุนแรงและลดผลตอบแทนของพืชผล มีความอดอยากอย่างรุนแรงในประเทศที่ยากจน การก่อสร้างใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และไม่ได้รับการออกแบบให้ใช้ซ้ำ

ภายใต้เศรษฐกิจหมุนเวียน :คนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ผลิต อนุรักษ์ และใช้พลังงานทดแทนของตนเอง การใช้ชีวิตร่วมกัน(communal living) เป็นวิถีชีวิตแบบใหม่ มีอาหารท้องถิ่นและอุดมสมบูรณ์สำหรับทุกคน ในเมืองและชนบทที่มีประสิทธิภาพและวิธีการผลิตที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ดินอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ มีการใช้วัสดุทดแทนในระดับภูมิภาคเพื่อการก่อสร้าง ควบคู่ไปกับคอนกรีตที่นำกลับมาใช้ใหม่อลูมิเนียมและเหล็กกล้าที่ผลิตในห่วงโซ่ปิดคาร์บอนต่ำ

พลาสติก

ปัจจุบัน  : การเจริญเติบโตของความต้องการพลาสติกจะได้รับการตอบสนองจากการใช้ทรัพยากรฟอสซิลที่ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์จากพลาสติกเช่นภาชนะบรรจุและบรรจุภัณฑ์ยังคงได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานแบบครั้งเดียวโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลัง มหาสมุทรของเราเต็มไปด้วยพลาสติกและปราศจากชีวิต หลุมฝังกลบยังคงเติบโตต่อเนื่องโดยมีกองขยะที่เน่าเสีย

ภายใต้เศรษฐกิจหมุนเวียน : การใช้ซ้ำอีกครั้งเป็นพฤติกรรมการบริโภคที่สำคัญและได้รับการยอมรับ พลาสติกมีการผลิตขึ้นเมื่ออายุสัมบูรณ์และการผลิตใช้วัตถุดิบรีไซเคิลแทนทรัพยากรฟอสซิลที่บริสุทธิ์ เราได้เปลี่ยนไปใช้วัสดุทางเลือกที่ยั่งยืนแทนพลาสติก เช่นวัสดุชีวภาพ มหาสมุทรและพื้นที่อยู่อาศัยของเราเป็นสภาพแวดล้อมที่สะอาดตามธรรมชาติปลอดจากขยะพลาสติก

ศักยภาพ           

ปัจจุบัน : เราเผชิญกับการว่างงานในวงกว้างและสูญเสียทุนมนุษย์เนื่องจากมีทักษะและความรู้ที่ซ้ำซ้อน การศึกษาส่วนใหญ่เป็นสิทธิ์ของผู้มั่งคั่งและก่อให้เกิดสาขาวิชาส่วนใหญ่ที่มีขีดความสามารถ จำกัด เพื่อท้าทายโครงสร้างที่มีอยู่ของการสร้างมูลค่า คนยากจนและไม่ได้รับการศึกษา และถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติ

ภายใต้เศรษฐกิจหมุนเวียน : การศึกษาเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต สังคมตระหนักถึงคุณค่าของทักษะและความสามารถของมนุษย์ เศรษฐกิจหมุนเวียนสร้างงานที่มีจุดประสงค์มากกว่ารายได้ส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว โรงเรียนและสถาบันการศึกษาอื่น ๆ มุ่งเน้นการสร้างและขยายความหลากหลายของความรู้และความรู้สึกที่มีคุณค่า เช่น ความคิด แบบ Mottainai (ความน่าเสียใจเสียดายต่อสิ่งมีคุณค่าที่ต้องถูกทิ้งให้เสียหายไปอย่างเปล่าประโยชน์ รวมถึงการใช้สิ่งมีค่าไปอย่างผิดวิธี) สำหรับทุกคนในทุกอาชีพ

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สังคมโลกพยายามที่จะทำให้เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่วิสัยทัศน์ที่อ้างขึ้นลอยๆ จะสังเกตเห็นว่าทุกวันนี้ ธุรกิจจะต้องยอม ‘จ่าย’ ที่เป็นต้นทุนในด้านของการเยียวยาสภาพแวดล้อม หรือกระแสธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในด้านต่างๆ อาทิ คาร์บอนเครดิต หรือแม้แต่ ต้นทุนที่มาจาก ‘มาตรการคุมเข้มด้านมลภาวะ’ และสภาพแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นกฎที่นับวันจะทวีความเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะที่ประเทศไทย ก็ได้มีกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ด้วยการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตด้วยคุณภาพชีวิต ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนกำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องแผนการบริโภค และการผลิตที่ยั่งยืน

อย่างที่บอก เศรษฐกิจหมุนเวียนไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นความจำเป็นที่ทั่วโลกตระหนักถึงระบบเศรษฐกิจที่มีความยั่งยืน ที่ขับเคลื่อนพันธะกิจด้วยองค์กรระดับนานาชาติ ที่ร่วมมือกันในทุกด้าน ทั้งไม่เพียงแค่ธุรกิจขนาดใหญ่ที่จะต้องมีการปรับตัว แม้แต่ SMEs ก็ต้องตระหนักเช่นกัน เพราะหากคุณไม่ปรับ โลกจะบังคับให้คุณปรับ ด้วยมาตรการทางการค้าที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและมลภาวะ ในรูปแบบของกฎระเบียบต่างๆ …

แม้แต่ผู้บริโภคเองก็ยังถูกบังคับให้ปรับตัว อาทิ การใช้ถุงพลาสติก ตอนไปซื้อของในห้างร้านต่างๆ ทุกวันที่ 4 ของเดือน จะไม่ได้รับถุงพลาสติก ลูกค้าต้องเอาถุง หรือถุงผ้า มาใส่ของเอง หรือจะหอบหิ้วไปอย่างไรก็ตามสะดวก…เห็นมั้ยว่าเรื่องนี้มันใกล้ตัวแค่ไหน

Visitors: 627,728