เดนมาร์คสร้าง 9 เกาะเทียม ผลิตพลังงานสะอาดป้อนเมืองหลวง

 
แหล่งที่มา : www.thansettakij.com วันที่โพสต์ :  15 ก.พ. 2562
       
เดนมาร์คสร้าง 9 เกาะเทียม ผลิตพลังงานสะอาดป้อนเมืองหลวง

เดนมาร์ค เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานลม ที่เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดที่ไม่สร้างมลภาวะทางอากาศ  เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลเดนมาร์คได้ประกาศโครงการใหญ่ที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าอีกขั้นในด้านนี้ นั่นคือโครงการถมทะเลสร้างเกาะเทียมจำนวน 9 เกาะ นอกชายฝั่งที่อยู่ห่างจากเมืองโคเปนเฮเกน เมืองหลวง ไปทางทิศทางใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อติดตั้งกังหันลมและก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมทั้งโรงไฟฟ้าจากขยะ กำหนดเริ่มการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2565 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ภายใต้ชื่อโครงการ “โฮล์มมินี” (Holmene) ที่แปลว่า หมู่เกาะเล็กๆ



นี่คือโครงการที่ได้ชื่อว่าเป็นโครงการที่จะเกิดการเวนคืนที่ดินและถมทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3 ล้านตารางเมตร บริษัท เออร์เบิน พาวเวอร์ ผู้ออกแบบโครงการเป็นบริษัทออกแบบของเดนมาร์คเอง สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองโคเปนเฮเกน แนวคิดหลักเน้นไปที่การรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด



บนเกาะเทียม 9 เกาะที่กำลังจะเกิดขึ้น นอกจากจะเป็นที่ตั้งของวินด์ฟาร์ม (ฟาร์มกังกันลม) และโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว เกาะเทียมเหล่านี้ยังจะถูกใช้เป็นศูนย์พัฒนาเทคโนโลยี  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสันทนาการ และเป็นกำแพงป้องกันน้ำท่วมให้กับพื้นที่เมืองริมขอบชายฝั่งอีกด้วย  ดินถมเกาะราว 26 ล้านลูกบาศก์เมตรจะเป็นดินที่ได้จากโครงการขุดอุโมงค์รถไฟใต้ดินและการขุดดินเพื่องานก่อสร้างอาคารสูง



นอกเหนือจากการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมแล้ว บนเกาะเทียมเหล่านี้ยังจะมีโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากขยะและน้ำทิ้ง (biowaste & wastewater) ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของเดนมาร์ค ในการบำบัดและแปรเปลี่ยนขยะประเภทของเสียชีวภาพ (เช่น สิ่งปฏิกูลจากคนและสัตว์ ขยะเปียก เศษซากพืชผัก ฯลฯ) และน้ำทิ้งมาเป็นก๊าซชีวภาพ (biogas) เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในลำดับต่อไป  ทั้งนี้ คาดว่าโรงไฟฟ้าบนเกาะเทียม (รวมทั้งพลังงานลมและพลังงานจากขยะ) จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ราว 300,000 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่า 1 ใน 4 ของความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าโดยรวมของชาวเมืองโคเปนเฮเกน



เกาะเทียมเหล่านี้ยังจะช่วยสร้างการจ้างงานราว 12,000 ตำแหน่งและจะก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ 380 ราย การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจะเริ่มขึ้นในปีนี้ (2562) เริ่มก่อสร้างปี 2565 และคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2583 มูลค่าการลงทุน 425 ล้านยูโร (กว่า 15,300 ล้านบาท) 
   
Visitors: 629,290