“ไทยเบฟ” ใช้ EV ลดต้นทุนธุรกิจ เสริมแกร่งโลจิสติกส์ต่อยอดออโตเมชั่น

 
แหล่งที่มา : www.prachachat.net วันที่โพสต์ :  26 พ.ย. 2561
       

“ไทยเบฟ” เร่งทรานส์ฟอร์มสู้ดิจิทัลดิสรัปชั่นรับโลก/พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ชี้คน-เทคโนโลยี-กระบวนการ ต้องพัฒนาควบคู่ เผยอยู่ระหว่างศึกษานำรถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ ต่อยอดหลังนำพลังงานทดแทน-ปรับโปรเซสโรงงานเป็นออโตเมชั่น

นายโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย และผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ระบุภายในงานสัมมนาอาเซียน ทรานส์ฟอร์เมชั่น เดอะ เชนจิ้ง แลนด์สเคป ว่า ปัจจุบันธุรกิจจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพของตัวเองและรับมือกับการแข่งขัน ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากการเข้าถึงและใกล้ชิดกับเทคโนโลยี ทำให้หลายอุตสาหกรรมหันมามองเรื่องทรานส์ฟอร์เมชั่นองค์กร เพื่อเตรียมตัวรับกับการโดนดิสรัปต์จากเทรนด์ดังกล่าวกันจำนวนมาก เช่นเดียวกับไทยเบฟที่ต้องรับมือกับเรื่องนี้เช่นกัน

โดยแนวคิดของบริษัทมองว่า เทคโนโลยีสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย แต่ความเร็วของการเปลี่ยนผ่านที่เกิดขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว จึงต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholder) อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในองค์กร คู่ค้า เอเย่นต์ ผู้บริโภค ฯลฯ ว่ามีความเข้าใจเรื่องดังกล่าวขนาดไหน และบริษัทจะพัฒนาหรือสร้างการเติบโตร่วมกันต่อไปได้อย่างไร

“การนำเทคโนโลยีมาใช้ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ เราจะมองแต่เทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองด้วยว่าคนของเรามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน การเปลี่ยนผ่านต้องมองควบคู่กันไปทุกองค์ประกอบ นั่นคือ technology people process และต้องไม่ทิ้งใครเอาไว้ข้างหลังจึงจะเป็นการทรานส์ฟอร์มที่ยั่งยืน”

นายโฆษิต ยังระบุอีกด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมาไทยเบฟได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมแกร่งธุรกิจทั้งการใช้ AI บิ๊กดาต้าวิเคราะห์ข้อมูล การนำระบบออโตเมชั่น หรือการใช้เครื่องจักรและหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในโรงงานผลิต ตั้งแต่โรงงานสุรา โรงงานเบียร์ โรงงานเครื่องดื่ม โดยในอนาคตจะใช้ระบบดังกล่าวเต็ม 100%ตลอดจนมีการปรับมาใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนกว่า 30% ในปัจจุบัน และอยู่ระหว่างศึกษาการนำเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เข้ามาใช้ในระบบขนส่ง โลจิสติกส์ของบริษัทด้วย

“ในปีหนึ่งเราใช้น้ำมัน 20-30 ล้านลิตร ถ้าหันมาใช้พลังงานทดแทน หรือเอา EV มาใช้ได้ก็จะเป็นประโยชน์มากขึ้น แต่สิ่งที่ต้องคิดต่อไปคือเรื่องการสื่อสารกับเรื่องของเซฟตี้ ซึ่งตรงนี้จะมีสเกลความคิดที่ค่อนข้างใหญ่ให้ต้องไปคิดต่อ”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันกลุ่มไทยเบฟมีบริษัทในเครือ “ไทยเบฟเวอเรจ โลจิสติก” ที่รับผิดชอบการขนส่งสินค้าของกลุ่มไทยเบฟ 4,000 ล้านลิตรต่อปี มีศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค 3 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา (ลงทุนปี 2555) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ปี 2556) จังหวัดลำปาง (ปี 2560) และศูนย์ขนส่งหลัก 2 แห่ง ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดกำแพงเพชร และศูนย์ขนส่งย่อย 13 แห่ง โดยมีรถขนส่งสินค้า รถบรรทุก 6 ล้อ 10 ล้อ 18 ล้อ และ 22 ล้อ จำนวน 1,380 คัน ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาระบบบริการขนส่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการขยายฐานการกระจายสินค้าสู่ภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนค่าขนส่งในการกระจายสินค้า ส่งสินค้าได้ทันตามความต้องการของลูกค้า

นอกจากนี้ ต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์กับภาพอุตสาหกรรมในประเทศไทยถือว่ามีอัตราที่สูง หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยรวมอาจจะเฉลี่ยประมาณ 18-26% ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนที่ค่อนข้างสูงสำหรับการขนส่ง ซึ่งกลุ่มไทยเบฟมีการขนส่งสินค้าปริมาณมากกว่า 1,750 ล้านลิตร และหากรวมเสริมสุขด้วยตัวเลขก็จะอยู่ที่ประมาณ 2.4 พันล้านลิตร หรือเฉลี่ยประมาณ 4 หมื่นกว่าเที่ยวในรอบ 1 เดือน


ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ การขนส่งลำเลียงสินค้าเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

Visitors: 620,700