“ซี.พี.แลนด์” 6 ปีที่รอคอย เปิดหน้าดิน 3,000 ไร่ ฮับ EEC
|
|||
แหล่งที่มา : www.prachachat.net | วันที่โพสต์ : 23 พ.ย. 2561 | ||
“ซี.พี.แลนด์” 6 ปีที่รอคอย เปิดหน้าดิน 3,000 ไร่ ฮับ EEC | |||
มาสเตอร์แพลนนิคมซีพีจีซี
ที่ดินผืนใหญ่กว่า 3,000 ไร่ ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนาและ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ของ “บมจ.ซี.พี.แลนด์” บริษัทอสังหาริมทรัพย์ใต้ปีกเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) |
|||
ที่ใช้เวลา 30 ปี ซื้อเก็บสะสมจนกลายเป็นผืนเดียวกัน ปัจจุบันตั้งอยู่ในทำเลที่มีจุดเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมล้อมรอบ ทั้งถนนสายหลัก 4-6 ช่องจราจร ห่างจากสนามบินอู่ตะเภา 35 กม. สนามบินสุวรรณภูมิ 145 กม. ท่าเรือมาบตาพุด 16 กม. ท่าเรือแหลมฉบัง 60 กม. สถานีรถไฟความเร็วสูงอู่ตะเภา 35 กม. ล่าสุดที่ดินถูกนำมาพัฒนานิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน บนพื้นที่ 3,068 ไร่ มีชื่อว่า “ซีพีจีซี” เป็นการร่วมทุนระหว่าง ซี.พี.แลนด์กับบริษัท กว่างซี คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด รัฐวิสาหกิจจากมณฑลหนานหนิงของประเทศจีน วงเงิน 3,500 ล้านบาท สัดส่วน 50:50 จัดตั้งบริษัท ซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ขับเคลื่อนโครงการ รับพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่โครงการได้รับสิทธิพิเศษพัฒนาอย่างเต็มที่ |
|||
ขณะนี้นิคมแห่งนี้กำลังเป็นรูปเป็นร่าง หลังใช้เวลาร่วม 6 ปีผลักดันในการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินในผังเมืองรวมใหม่ จนมาสำเร็จเมื่อปีที่ผ่านมา หลังรัฐบาลประกาศ จ.ระยองเป็นเขตเศรษฐกิจอีอีซี ทำให้กฎเหล็กที่ค้างคาถูกคลายลงโดยปริยาย
“สุนทร อรุณานนท์ชัย” ประธานกรรมการ บริษัท ซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการนี้ใช้เงินลงทุนทั้งหมด 8,800 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคในปี 2562 เปิดขายพื้นที่ภายในไตรมาส 2 ของปี 2562 เนื่องจากต้องรอการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ประกาศเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมและอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม |
|||
“หลังรอมา 6 ปี วันนี้นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เราเคลียร์ทุกอย่างแล้ว ทั้งผังเมืองรวมที่ปรับสีการใช้ประโยชน์ที่ดินจากสีเขียวเป็นสีม่วง ขั้นตอนการดำเนินงานเงื่อนไขทุกอย่างร่วมกับ กนอ.เสร็จแล้ว รออีไอเออย่างเดียว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน จะเริ่มก่อสร้างปีหน้าและเปิดพัฒนาในปี 2563” การที่ ซี.พี.แลนด์ลงทุนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเนื่องจากมองเห็นโอกาสและที่ดินแปลงดังกล่าวก็อยู่ในพื้นที่อีสเทิร์นซีบอร์ด เป็นจุดที่เหมาะกับการลงทุน ซึ่งบริษัทเตรียมตัวมาหลายปี โดยพื้นที่พัฒนาเบื้องต้นวางไว้ที่ประมาณ 3,000 ไร่ จะพัฒนาให้เต็มพื้นที่ มีพื้นที่อุตสาหกรรม 2,205 ไร่ พาณิชยกรรม 112 ไร่ พื้นที่สีเขียว 309 ไร่ และสาธารณูปโภค 443 ไร่ จะเลือก 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve กับ new S-curve) ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงตามที่รัฐบาลไทยประชาสัมพันธ์มาลงทุนภายในประเทศ เช่น อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแพทย์ครบวงจร คาดว่ามีบริษัทจากจีนประมาณ 100 แห่งจะมาลงทุน แต่อาจจะใช้พื้นที่ไม่มาก ประมาณรายละ 10 ไร่ขึ้นไป ขณะนี้ได้เซ็นบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ 3 องค์กรใหญ่ของจีน คือ 2. บริษัท ไชน่า เอ็นเนอร์จี้ เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป สนใจจะลงทุนด้านธุรกิจพลังงาน และ “การลงทุนทางจีนจะพิจารณาต่อไป เพราะจีนเป็นคนทำตลาด กำหนดราคาขายและเช่า ทาง ซี.พี.แลนด์จะเป็นผู้ก่อสร้างและบริหาร จีนบอกว่า มีผู้สนใจจะมาลงทุนในนิคม 20-30 ราย เป็นหน่วยงานที่ประกอบกิจการตามนโยบาย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลไทยทั้งหมด แต่ยังไม่ได้เซ็นสัญญากัน ส่วนการร่วมมือกับกลุ่มอื่น เช่น อาลีบาบา ยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ร่วมมือกัน ขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ก็มีการคุยกันบ่อยครั้งและให้ความสนใจในทุกประเภทงาน เราคุยได้ทั้ง 3 ปาร์ตี้” นายสุนทรกล่าวว่า ยังมีพื้นที่ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 100 ไร่ ที่จะนำมาพัฒนากิจการอื่น ๆ รองรับกับนิคมอุตสาหกรรม เช่น พื้นที่เชิงพาณิชย์ ศูนย์การเรียนรู้ รวมถึงอาจจะซื้อที่ดินเพิ่ม “บริเวณตรงข้ามกับนิคมมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตระยอง ทำให้ได้รับโอกาสถ่ายทอดเทคโนโลยีจากจีน เพราะมีเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดในระดับโลกอยู่แล้ว คาดว่า 2-3 ปีจะเริ่มเห็นรูปร่าง โดยการร่วมลงทุนครั้งนี้จะต้องทำให้จีนเห็นว่า การลงทุนครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะทำให้เรามีชื่อเสียง ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาเพิ่ม” ส่วนแผนการพัฒนาเมืองใหม่มารองรับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินและเมืองการบินอู่ตะเภา นายสุนทรกล่าวว่า ซี.พี.แลนด์ยังไม่มีแผนลงทุนอะไร แต่เชื่อว่าบริษัทอื่นในเครือ ซี.พี.น่าจะมีแผนพัฒนาอยู่ ถึงจะไม่มีโครงการพัฒนามารองรับ แต่หลายคนคาดว่านิคมอุตสาหกรรมซีจีพีจีจะได้รับอานิสงส์จากการปรับแนวรถไฟความเร็วสูงจะสร้างจากอู่ตะเภา-ระยองที่บอร์ดอีอีซีอนุมัติให้เบี่ยงแนวหลบนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างพิจารณาแนวเส้นทางขยับขึ้นไปทางถนนหมายเลข 36 ดูจากระยะห่างมีแนวโน้มจะเข้าไปใกล้กับที่ดิน ซี.พี.ไม่มากก็น้อย |