HR ปรับโหมดสู่ไฮทัช–ไฮเทค รับเทรนด์ AI

 
แหล่งที่มา : www.thansettakij.com วันที่โพสต์ :  17 ต.ค. 2561
       
 HR ปรับโหมดสู่ไฮทัช–ไฮเทค รับเทรนด์ AI 

ผู้ประกอบการ ผู้จ้างงาน รู้ยัง!!! งานด้าน HR เตรียมปรับโหมดกลยุทธ์สู่ไฮทัช–ไฮเทค เข้ากับเทรนด์ทั่วโลก

เทรนด์ตลาดแรงงาน เทรนด์เทคโนโลยี การปรับตัวขององค์กรรับมืออย่างไร? ท่ามกลางสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของตลาดแรงงานต่อวิถีการใช้เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในตลาดแรงงานในปัจจุบัน โดยปี 2561 "แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป" ได้เก็บทัศนะความคิดจากกลุ่มตัวอย่างจากตลาดแรงงานที่มีศักยภาพกว่า 24 ประเทศทั่วโลก กว่า 18,000 คน อายุระหว่าง 18–65 ปี ของผู้สมัครงานและผู้จ้างงานในยุคปัจจุบัน พร้อมวิเคราะห์เจาะภาพในอนาคต โดยมุ่งประเด็นไปที่ขั้นตอนการหางานในโลกแห่งการใช้เทคโนโลยีและสิ่งที่เรียกว่า "ปัญญาประดิษฐ์" (Artificial Intelligence : AI) ในการเข้ามาช่วยวิเคราะห์ใบประวัติของผู้สมัคร
  
สิ่งที่น่าสนใจ คือ แรงงานในยุคปัจจุบันที่ปรับตัวต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยเฉพาะเทคโนโลยี ทำให้การสื่อสารมีความทันสมัย สะดวกรวดเร็ว และง่ายในการเชื่อมต่อระหว่างผู้จ้างงานและผู้สมัครงาน สามารถเชื่อมโยงได้รวดเร็ว ทั้งการประกาศหางานของนายจ้าง รวมถึงการสมัครงานของผู้สมัคร ด้วยช่องทางที่หลากหลายตลอดจนการปฏิสัมพันธ์ระบบการพูดคุย หรือ สามารถสัมภาษณ์งานได้อัตโนมัติรวดเร็วมากขึ้น ช่องทางการสื่อสารในสังคมปัจจุบันและสังคมแห่งอนาคตที่เห็นได้ชัด คือ สื่อโซเชียลสุดยอดทางเลือกของผู้สมัครงานในสังคมปัจจุบันและในอนาคต แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการสำรวจ พบว่า ผู้สมัครงานทั่วโลกยังคงให้ความสำคัญกับปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์และการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว โดย 26% ของผู้สมัคร ยังคงชอบการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว ซึ่งให้ประสบการณ์แบบไฮทัช (High Touch) เป็นความพอใจสูงสุดท่ามกลางการหางานและวิธีการสมัครงานแบบต่าง ๆ ที่ผู้สมัครชอบใช้ ทั้งนี้ เทคโนโลยีมีประสิทธิภาพเข้ามาช่วยในกระบวนการต่าง ๆ ของ HR แต่ไม่อาจทดแทนปฏิสัมพันธ์กับคนได้ ดังนั้น การผสมผสานการทำงานควรมีการปรับใช้ให้เหมาะสม

"แมนพาวเวอร์กรุ๊ปจึงมองว่า กลยุทธ์ไฮทัช (High Touch) และไฮเทค (High Tech) ต้องมีส่วนผสมที่ลงตัว ทั้งการใช้เทคโนโลยีและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์"
ตลอด 1 ปีในการสำรวจ ทำให้สามารถแบ่งช่วงอายุกลุ่มผู้สมัครงานที่เข้าถึงเทคโนโลยีในสังคมปัจจุบัน โดยแบ่งกลุ่มผู้ที่สมัครงานได้ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สมัครงานเดิมและกลุ่มผู้สมัครงานที่นำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการหางานอย่างน้อย 2–3 เทคโนโลยี ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

โดยกลุ่มนี้มีคุณลักษณะอายุน้อย เป็นคนเมืองและมักใช้เทคโนโลยีในการหางาน ใช้เครื่องมือที่คล่องแคล่วฉับไว ทันสมัยตอบโจทย์สังคมยุคปัจจุบัน สามารถแบ่งกลุ่มนี้ออกเป็น Gen Z (อายุ 18–21 ปี), Gen Y หรือ Millennial (อายุ 22–34 ปี) การจับคู่เทคโนโลยีเข้ากับกลุ่มผู้สมัคร คือ กุญแจสำคัญ ตำแหน่งงานระดับจูเนียร์ถึงกลางเกือบทั้งหมดมีการลงประกาศ โดยเฉพาะทางสื่อออนไลน์ หากแต่มักเกิดขึ้นได้น้อยสำหรับตำแหน่งระดับอาวุโส ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยการแนะนำ หรือ การสรรหาโดยบุคคลที่สาม

ดังนั้น ในยุคปัจจุบัน หน่วยงาน หรือ ผู้ว่าจ้างทั่วโลก และประเทศไทยต้องมีการปรับตัวให้รู้เท่าทันเทคโนโลยี ปรับการใช้งานให้เข้ากับกลุ่มแรงงานในแต่ละประเภทให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการคัดเลือก ให้ได้แรงงานที่มีคุณภาพมีทักษะตรงตามความเหมาะสมของงานและหน่วยงานที่รับผิดชอบ
จากการสำรวจสิ่งที่น่าสนใจอีกประเด็น คือ เสียงสะท้อนที่มีแนวโน้มใกล้เคียงกัน คือ เทคโนโลยีสามารถช่วยผลักดันจำนวนของใบสมัครงาน โดยเรียกได้ว่า ผู้จ้างงานจะได้รับการสมัครผ่านเทคโนโลยีหลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถรับประกันได้ถึงคุณภาพผู้สมัครงานที่ได้ การเพิ่มขึ้นของใบสมัครงานผลักดันความต้องการด้านเทคโนโลยีในการบริหารจัดการที่ช่วยให้ฝ่าย HR จัดลำดับผู้ที่มีคุณสมบัติตามต้องการได้ จากผลสำรวจพบว่า

2 ประเทศที่ใช้กระบวนการ HR ผ่านเทคโนโลยีสูงที่สุด คือ อินเดียและมาเลเซีย
 

ส่วนอีก 2 ประเทศที่ใช้กระบวนการ HR ผ่านเทคโนโลยีต่ำที่สุด คือ แคนาดาและญี่ปุ่น และ

สิ่งที่ได้อีกประการ คือ ผู้สมัครงานยุคใหม่มักเลือกใช้เทคโนโลยีผ่านกระบวนการ
HR 3 อันดับแรก คือ
1.เลือกรับรู้ผ่านช่องทางโฆษณาโซเซียลมีเดีย
2.เลือกรับรู้ผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
3.รับรู้จากการประกาศหรือข้อความที่ส่งจากองค์กรโดยตรง อาทิ SMS

ดังนั้น ในอนาคตองค์กร โดยเฉพาะ HR ต้องมองถึงกลยุทธ์เพื่อผสมผสานไฮทัช (High Touch) ไฮเทค (High Tech) ในกระบวนการสรรหาบุคลากร ซึ่งต้องมอง 5 ส่วนสำคัญ
1.มองถึงปัญหา ระบุปัญหาที่เกิดขึ้นได้
2.ต้องรู้จักกลุ่มผู้สมัครงาน ทราบถึงบุคลิกตัวตนของผู้ที่สมัครงาน
3.สามารถวิเคราะห์ใช้ช่องทางการสื่อสารที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
4.เปลี่ยนจากปริมาณให้เป็นคุณภาพ และ
5.ให้ความสำคัญกับการมีปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสม
อนาคต ในกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรคุณภาพ เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีประสิทธิภาพคุณสมบัติตรงตามความต้องการของหน่วยงาน ฝ่าย HR ต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องตามยุคสมัย เข้าถึงพฤติกรรมในแต่ละกลุ่ม เพื่อให้ได้แรงงานที่มีทักษะคุณภาพงานตรงตามความต้องการของแต่ละสายงาน ไม่เพียงเท่านั้น ผู้สมัครงานควรต้องเรียนรู้ถึงการปรับตัว เพิ่มพูนทักษะความรู้ความสามารถให้ตรงตามสายงาน และรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสม สร้างจุดขายให้สอดคล้องกับทักษะและบุคลิกภาพของตัวเอง ซึ่งหากวันนี้มีการปรับตัวตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้น ตั้งแต่การคัดสรรบุคลากร การเลือกทำงานที่เหมาะกับกลุ่มแรงงานหรือผู้สมัครงานเชื่อว่าจะทำให้ตลาดแรงงานมีการเติบโตที่ไม่ต้องเสียเวลาและการเสียโอกาสในหางานหาคนอีกต่อไป สุดท้าย ค่าเสียโอกาสที่อาจมองไม่เห็น จะกลายเป็นมูลค่าที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ที่ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร และทุกคนต้องหันมาให้ความใส่ใจในปัจจุบันและในอนาคตอย่างจริงจัง
Visitors: 626,641