5 เรื่องที่คนทำ Digital Marketing ไม่ควรทำในปี 2018 นี้

 
แหล่งที่มา : www.marketingoops.com วันที่โพสต์ :  22 พ.ค. 2561
       
 5 เรื่องที่คนทำ Digital Marketing ไม่ควรทำในปี 2018 นี้

การทำ Digital Marketing นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายที่เกิดขึ้นมา และทำให้นักการตลาดนั้นต้องปรับตัวอย่างมากมายในการทำการตลาด เพราะด้วยความที่ผู้บริโภคในยุคนี้อยู่ในโลกออนไลน์กัน ทำให้การทำ Digital Marketing นั้นเป็นถึงจุดชี้วัดว่าการตลาดของนักการตลาดที่ทำนั้นจะสามารถประสบความสำเร็จหรือไม่ ทำให้คนทำการตลาดผ่าน Digital นั้นต้องหมั่นอัพเดทความรู้ตัวเองอยู่เสมอ ๆ เพราะโลกของเทคโนโลยีนั้นมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา และมีผลทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอีกด้วย

ด้วยการปรับเปลี่ยนอย่างมากมายในโลกของเทคโนโลยีนั้น ทำให้นักการตลาดต้องเรียนรู้ในการปรับตัวและไม่ยึดติดในสิ่งที่ทำในรูปแบบเดิม ๆ มาและมองหาวิธีการหรือแสวงหาการทำอะไรใหม่ ๆ ที่มันจะได้ผลขึ้นมาต่อกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง การรู้ว่ายุคนี้ไม่ควรทำอะไรแล้วหรือต้องทำอะไรเพิ่มขึ้นมานั้นจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้นักการตลาดนั้นอยู่ในแถวหน้าของการตลาดอยู่เสมอ ซึ่งวันนี้ราจะมารู้จัก 5 ข้อที่นักการตลาดควรเลิกทำในปี 2018 แล้ว

1. ไม่ทำ A/B Testing : การทำ A/B Testing นั้น นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ทำ Digital Marketing ในยุคนี้ การไม่ทำ A/B Testing ใน Content, Design, Website หรือ email เป็นความผิดพลาดอย่างมากของนักการตลาดเอง เพราะทำให้พลาดโอกาสที่จะทำให้ Campaign การตลาดตัวเองนั้นสามารถแสดงศักยภาพที่สูงสุดออกมาได้ หลีกเลี่ยงความผิดพลาด และทำให้เกิดคสวามคุ้มค่าของการทำการตลาดมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เมื่อนักการตลาดจะเริ่มทำการตลาดใด ๆ ผ่านออนไลน์เองก็ตาม อย่าลืมการสร้างสมมุติฐานในแนวคิดการทำ A/B Testing เอาไว้ด้วย เพื่อที่จะได้เป็นแบบฝึกหัดและแบบประเมินในการทำงานที่ดีต่อทีมทำงานในทุกครั้งว่าจะมีตัวชี้วัดและตัวเปรียบเทียบว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นได้ด้วย

2. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไม่เป็น : นักการตลาดหลาย ๆ คนนั้นมักจะหาเครื่องมือต่าง ๆ มาใช้ในการทำงาน Digital Marketing ให้เกิดความสะดวกขึ้นมากมาย หลาย ๆ ครั้งด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะใช้เครื่องมืออย่างไร ก็ทำให้การมีอาวุธดี ๆ ก็กลายเป็นก้อนหินธรรมดาได้ หรือบางทีด้วยความไม่รู้และไม่ได้มีงบประมาณ ทำให้เลือกใช้เครื่องมือฟรีต่าง ๆ ทำให้สิ่งที่ได้นั้นไม่ได้คุ้มค่าหรือไม่ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่จะเอาไปใช้ต่อได้ หรือไม่ตรงวัตถุประสงค์การทำงานทันที ดังนั้นการเข้าใจในวิธีการทำงานในแต่ละเครื่องมือ ลงทุนในการใช้เครื่องมือ และรู้ว่าแต่ละเครื่องมือทำงานเพื่อตอบวัตถุประสงค์อะไรนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่จะทำให้นักการตลาดสามารถทำ Digital Marketing ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ใช้ Keyword น้อยหรือมากเกินไป : ด้วยความที่ Digital Marketing นั้นเกี่ยวข้องกับการทำ Content ต่าง ๆ ด้วย ดังนั้นการเข้าใจ SEO ว่าจะทำใช้อย่างไรใน Content Marketing ตัวเองเพื่อให้ติดอันดับในการค้นหาของเครื่องมือ Search ต่าง ๆนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือนักการตลาดหลาย ๆ คนไม่เข้าใจการใช้ Keyword ทำให้เกิดการใช้ Keyword ต่าง ๆ ที่ตำ่เกินไปในการตลาดของตัวเอง หรือมากเกินไปในการตลาดของตัวเอง เมื่อใช้ Keyword ที่ต่ำเกินไป จะทำให้นักการตลาดสูญเสียโอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการค้นหาบางคำได้ แต่ถ้าใช้ Keyword มากเกินไปสิ่งที่เกิดขึ้นคือเนื้อหาคุณจะอ่านไม่รู้เรื่องและยังอาจจะถูกลงโทษจาก Google อีกด้วย ดังนั้นการรู้ว่าจะใช้ keyword ที่เหมาะสมอย่างไรกับบทความต่าง ๆ หรือเนื้อหาต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาด้วยเครื่องมือ SEO ต่าง ๆ

4. เอาแต่ขาย : แน่นอนว่าทำการตลาดสุดท้ายก็อยากจะให้ขายของได้ หรือเกิดลูกค้าเกิดขึ้นมา โดยเฉพาะคนที่ทำการตลาดผ่าน Digital Marketing แรก ๆ คือการเอาแต่ขายของในช่องทางของตัวเองต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนทำให้ผู้บริโภคนั้นเกิดความรำคาญต่าง ๆ ขึ้นมาได้ เพราะหลาย ๆ คนเข้ามาในช่องทาง Digital เพื่อหาคำตอบที่ต้องการ แต่กลับเจอว่ามีการขายอะไรโดยไม่มีคุณค่าอะไรให้ นอกจากมือใหม่แล้วมือเก่านักการตลาดก็เข้าใจว่าทุก ๆ ช่องทางสามารถทำการขายของได้ ทำให้เกิดการสร้างเนื้อหาที่เข้าไปขายในทุก ๆ ช่องทางของตัวเองเกิดขึ้น แต่แท้จริงแล้ว บางช่องทางที่เกิดขึ้นมาในตอนนี้ไม่ได้เหมาะสมที่จะทำให้เกิดการขายขึ้นมา แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการซื้อหรือกระตุ้นความอยาก ดังนั้นการเข้าใจธรรมชาติของแต่ละช่องทางการสื่อสารตัวเอง และเลือกใช้ให้ถูกต้องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ

5. ไม่ให้ความสำคัญของการทำ Personalization : เมื่อยุคนี้นักการตลาดสามารถเก็บข้อมูลได้มากมาย การทำ Personalization นั้นก็เป็นหนทางหนึ่งที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายได้ขึ้นมา ซึ่งเมื่อนักการตลาดไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้ดังเช่นเรื่องง่าย ๆ ในการให้คำตอบที่ไม่เหมือนกันกับแต่ละคนใน comment social media ต่าง ๆ ก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมายมองว่านักการตลาดนั้นไม่ได้ให้ความใส่ใจและความสนใจกับกลุ่มเป้าหมายด้วยกัน และทำให้สูญเสียกลุ่มที่จะสามารถกลายมาเป็นลูกค้าไปด้วย

 
   
ขอบคุณข่าวจาก : Marketingoops
 
Visitors: 620,217