‘แอร์บัส’พร้อมผนึก‘บินไทย’ ผุดศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา ดัน‘ฮับการบิน’เอเชีย

บมจ.การบินไทย นำคณะสื่อมวลชน เดินทางไปยังโรงงานผลิตเครื่องบินแอร์บัส ที่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A350 XWB ลำที่ 11 จากทั้งหมด 12 ลำ
โดยเครื่องบินลำที่ 11 ที่รับมอบครั้งนี้ได้รับนามพระราชทานว่า “ชุมพลบุรี”

นายบอร์น่า เวอร์โดยัค หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาดของ บริษัทแอร์บัส ตอบคำถามถึงเรื่องที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC โดยมีอุตสาหกรรมด้านการบินเป็นส่วนสำคัญหนึ่งโดยเฉพาะเรื่องที่ได้ชักชวนแอร์บัสเข้ามาลงทุนตั้งศูนย์ซ่อมเครื่องบินในประเทศไทยนั้น ทางแอร์บัสกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในเรื่องนี้อยู่

ขณะที่ แอร์บัส เล็งเห็นถึงความสำคัญของเอเชียที่กำลังมีการเติบโตของธุรกิจการบินอย่างมาก โดยเฉพาะไทย ซึ่งปัจจุบันเครื่องบินพาณิชย์ของทุกสายการบินในไทยมีรวมกันมาก 500 ลำ และกำลังจะเพิ่มเป็น 1,310 ลำ ภายในอีก 20 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ดีประเด็นที่ไทยปรารถนาจะเป็นฮับการบินแห่งเอเชียนั้น นายบอร์น่าให้ข้อคิดเห็นว่า สิ่งที่ควรจะทำคือการวางแผนล่วงหน้าให้ชัดเจนโดยเฉพาะเมื่อแนวโน้มธุรกิจการบินและการเดินทางด้วยเครื่องบินมีแต่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ไม่มีลดลงซึ่งปกติจะมีการเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกๆ 15 ปีจึงต้องวางแผนล่วงหน้า จะทำอย่างไรในการรองรับความคับคั่งที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเที่ยวบินระยะไกลที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ และกรุงเทพฯก็เป็น 1 ใน 85 เมืองใหญ่ที่เป็นเป้าหมายการเดินทางของชนชาติต่างๆ ในอนาคตสนามบินที่มีอยู่ย่อมไม่พอ จะเพิ่มได้อย่างไร หรืออาจต้องใช้เครื่องบินที่ใหญ่ขึ้น รับผู้โดยสารได้มากขึ้น

มีรายงานแจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ แอร์บัส กับการบินไทย ได้ร่วมมือกันเพื่อประเมินโอกาสทางธุรกิจใน EEC ตามโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาจ.ระยอง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงอากาศยานระดับโลก

ด้านเรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บมจ.การบินไทย ชี้แจงข่าวการบินไทย ไม่ให้คนอ้วนสำรองที่นั่งชั้นธุรกิจ หรือผู้โดยสารที่มีรอบเอวเกิน 56 นิ้ว ขึ้นเครื่องใหม่ชั้นธุรกิจว่า การออกประกาศนี้ออกมาก็เพื่อความปลอดภัย

“ตามที่บริษัท ได้รับมอบเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787-9 จำนวน 2 ลำ เข้าประจำฝูงบินของการบินไทยตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 โดยบริษัทโบอิ้งซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินแบบดังกล่าว ได้กำหนดให้มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยรุ่นใหม่ที่มีถุงลมนิรภัย(Airbag) ในตัวบนที่นั่งชั้นธุรกิจของเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787-9 ซึ่งเข็มขัดนิรภัยดังกล่าวได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (FAA) โดยที่ผู้โดยสารที่มีรอบเอวเกิน 56 นิ้ว จะไม่สามารถคาดเข็มขัดนิรภัยดังกล่าว”

ดังนั้น บริษัท จึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย โดยสงวนสิทธิ์ในการสำรองที่นั่งชั้นธุรกิจ รวมถึงผู้โดยสารที่เดินทางโดยให้ทารกนั่งตัก บนเครื่องบินแบบโบอิ้ง 787-9 เพื่อความปลอดภัย