ธปท.จับมือแบงก์-7 ธุรกิจสร้าง “Blockchain Community”

 
แหล่งที่มา : www.moneychannel.co.th วันที่โพสต์ :  20 มี.ค. 2561
       
 ธปท.จับมือแบงก์-7 ธุรกิจสร้าง “Blockchain Community”
14 แบงก์ไทยจับมือธุรกิจขนาดใหญ่ 7 แห่ง สร้าง Thailand Blockchain Community Initiative แห่งแรกในไทย   
 
นายปรีดี  ดาวฉาย  ประธานสมาคมธนาคารไทย บอกว่า  Thailand Blockchain Community Initiative ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างบล็อกเชนมายกระดับภาคธุรกิจไทย ประกอบด้วยความร่วมมือของธนาคาร 14 แห่ง  ได้แก่

     1. ธนาคารกรุงเทพ
     2. ธนาคารกรุงไทย
     3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
     4. ธนาคารกสิกรไทย
     5. ธนาคารเกียรตินาคิน
     6. ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
     7. ธนาคารทหารไทย
     8. ธนาคารทิสโก้
     9. ธนาคารไทยพาณิชย์
     10. ธนาคารธนชาต
     11. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
     12. ธนาคารยูโอบี
     13. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย)
     14. ธนาคารออมสิน 
 
และธุรกิจขนาดใหญ่ 7 แห่ง ได้แก่ 

     1.การไฟฟ้านครหลวง
     2.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
     3.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
     4. บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล
     5. บจก. พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง
     6. บมจ. ไออาร์พีซี 
     7. เครือปูนซิเมนต์ไทย 
 
โดยมีบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ให้คำปรึกษาด้านการจัดการภาพรวมของโครงการ และด้านกฎหมาย  ซึ่งนับเป็นรูปแบบความร่วมมือที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
 
ทั้งนี้ โครงการบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบ บล็อกเชนเป็นโครงการแรก ภายใต้ Thailand Blockchain Community Initiative ที่ใช้โครงข่ายเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อรับรองเอกสารหนังสือค้ำประกันที่มีประสิทธิภาพสูง เชื่อถือได้ ปลอดภัย และมีมาตรฐานรูปแบบข้อมูลที่เป็นเอกภาพ  โดยมั่นใจว่าเมื่อผ่านการทดสอบ จะนำออกมาใช้ประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้ 
 
ทั้งนี้ ในปี 2560 หนังสือค้ำประกันที่ผ่านระบบธนาคารพาณิชย์มีมูลค่ารวมกว่า 1.35 ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวนมากกว่า 500,000 ฉบับ ในจำนวนนี้เป็นการออกเอกสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประมาณ 15-20%  
 
ด้าน ดร. วิรไท  สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย  บอกว่า  ธปท. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นความร่วมมือในการสร้างชุมชน Blockchain นี้ขึ้น และปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างการร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์  ศึกษาการใช้ Blockchain กับการออกพันธบัตร เพื่อลดระยะเวลาการออกพันธบัตรของธนาคารพาณิชย์ ที่เดิมต้องใช้เวลาประมาณ 15 วัน ลดเหลือเพียง 2 วัน  
 
นอกจากนี้ ธปท. ยังอยู่ระหว่างการศึกษาการนำเทคโนโลยี Blockchain  มาใช้ในการทดลองออกสกุลเงินดิจิทัล หรือ ดิจิทัลเคอเรนซี ที่เป็นเงินบาท หรือ คริปโตบาท  เพื่อนำมาใช้สำหรับการชำระราคาระหว่าง ธปท.กับธนาคารพาณิชย์ และระหว่างธนาคารพาณิชย์ด้วยกัน  ภายใต้ชื่อโครงการว่าอินทนนท์   โดยเงินดิจิทัลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ใช้สำหรับชำระราคาระหว่างกันตลอด 24 ชั่วโมง จากเดิมที่จะต้องทำในเวลาที่เปิดทำการ 
   
ขอบคุณข่าวจาก : moneychannel.co.th
 
Visitors: 626,762