‘เดย์ ซีโร’ (Day Zero) วิกฤติภัยแล้ง เมืองเคปทาวน์
| |
|||
| แหล่งที่มา : www.voicetv.co.th | วันที่โพสต์ : 14 มี.ค. 2561 | ||
| ‘เดย์ ซีโร’ (Day Zero) วิกฤติภัยแล้ง เมืองเคปทาวน์ | |||
 |
|||
| หลังจากเมืองเคปทาวน์ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติภัยแล้งขั้นเลวร้ายมาตลอด 3 ปีเต็ม ล่าสุด ทางการประกาศข่าวดีกับประชาชนว่า ‘เดย์ ซีโร’ (Day Zero) หรือวันที่อ่างเก็บน้ำจะลดลงเหลือแค่ 13.5 เปอร์เซ็นต์ จนกระทั่งไม่มีน้ำประปาไหลออกจากก๊อก ถูกเลื่อนออกไปกว่า 4 เดือน หลายประเทศทั่วโลกต่างส่งกำลังใจให้กับเมืองแคปทาวน์ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในดินแดนเซาท์แอฟริกา ที่เผชิญหน้ากับวิกฤติภัยแล้งขั้นเลวร้ายมาตลอด 3 ปีเต็ม ทว่าล่าสุด เอียน เนลสัน (Ian Neilson) รองนายกเทศมนตรีเมืองเคปทาวน์กล่าวในแถลงการณ์ว่า กำหนดการ ‘เดย์ ซีโร’ หรือวันที่อ่างเก็บน้ำของเมืองจะลดลงเหลือ 13.5 เปอร์เซ็นต์ จนกระทั่งไม่มีน้ำประปาไหลออกจากก๊อก ถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 22 เมษายน เป็นวันที่ 27 สิงหาคม ซึ่งตรงกับช่วงฤดูฝน โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างหวังว่า สายฝนคงจะมาช่วยเติมเต็มอ่างเก็บน้ำทั้ง 6 แห่ง ซึ่งมีความจุสูงสุด 870 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามปกติ ฤดูฝนในเมืองเคปทาวน์มักเริ่มต้นในเดือนเมษายน หรือพฤษภาคม แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนลดลงมาก ทำให้ปัจจุบันระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเมืองเคปทาวน์อยู่ที่ 23.6 เปอร์เซ็นต์ ลดลง 0.4 เปอร์เซ็นต์จากสัปดาห์ก่อน ทว่า แม้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำจะลดลง แต่ทางการเมืองเคปทาวน์กล่าวว่า การปิดการจ่ายน้ำประปาให้กับประชาชนอาจจะไม่เกิดขึ้นในปี 2018 ทั้งๆ ที่สภาเทศบาลเมืองเพิ่งออกประกาศเตือนประชาชนว่า ‘เดย์ ซีโร’ อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงครึ่งแรกของปี ทำให้หลายฝ่ายร่วมมือกันวางยุทธศาสตร์ระยะยาวเกี่ยวกับการประหยัดน้ำประปา โดยออกมาตรการควบคุมปริมาณการใช้ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องไปเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤติ ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ ทางการประกาศข้อบังคับให้ประชาชนใช้น้ำประปาเพียงแต่ 50 ลิตร หรือประมาณ 13 แกลลอนต่อวันเท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในสหรัฐฯ แล้วถือว่าต่างกันลิบลับ เพราะปริมาณการใช้น้ำประปาของคนอเมริกันอยู่ที่ระหว่าง 80-100 แกลลอน ส่งผลให้คนเคปทาวน์ส่วนใหญ่อาบน้ำเพียงแค่ 2 นาที ต้องใช้เจลทำความสะอาดมือแทนน้ำ และนำน้ำสีเทาขุ่นมาชำระล้างห้องน้ำ ที่ผ่านมา เมืองแคปทาวน์อ้าแขนรับนักเดินทางกว่า 2 ล้านคนต่อปี โดยสภาการท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council) ระบุว่า เมื่อปี 2017 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวช่วยสร้างรายได้ให้กับเคปทาวน์ได้ 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ประชาชนราว 4 ล้านคนกลับต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติขาดแคลนน้ำเข้าขั้นรุนแรงที่สุดในศตวรรษ เพราะช่วงสัปดาห์แรกของปีใหม่ ระดับน้ำในเขื่อนลดลงต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณน้ำใช้อุปโภคบริโภคเหลือไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม แม้ ‘เดย์ ซีโร’ จะถูกเลื่อนออกไปกว่า 4 เดือน แต่รัฐบาลก็ยังคงเน้นย้ำเร่ืองการประหยัดน้ำต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์ภัยแล้วยังคงน่าเป็นห่วง ดังนั้น หากประชาชนยังคงรักษาความพยายามในการประหยัดน้ำไว้ได้ ในปี 2018 เมืองเคปทาวน์ก็อาจจะปลอดภัยจาก ‘เดย์ ซีโร’ อย่างสมบูรณ์ “ถ้าฝนตกน้อยกว่าปีที่แล้ว พวกเราก็ยังคงต้องเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับ ‘เดย์ ซีโร’ ในช่วงต้นปีหน้า” รองนายกเทศมนตรีเมืองเคปทาวน์กล่าวเตือนประชาชน |
|||
| ขอบคุณข่าวจาก : voicetv.co.th |
|||
